ริปเปิล(XRP) ยังคงเป็นที่จับตาในตลาดคริปโต หลังจากบรรลุข้อตกลงกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) ในคดีความที่ยืดเยื้อมายาวนาน ล่าสุด ริปเปิลเดินหน้าขยายกิจกรรมในหลายด้านทั้งการประกาศพันธมิตรรายใหม่ การเผยแผนกระจาย ‘RLUSD’ สเตเบิลคอยน์ในต่างประเทศ รวมถึงความหวังที่เพิ่มขึ้นต่อการอนุมัติกองทุน XRP ETF ซึ่งทั้งหมดนี้กำลังกลายเป็น ‘แรงขับเคลื่อน’ สำคัญต่อทิศทางราคาและความเชื่อมั่น
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา TRM Labs บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน ได้เปิดตัวเครือข่ายตอบโต้เหตุอาชญากรรมคริปโตแบบเรียลไทม์ชื่อว่า ‘บีคอน(Beacon)’ โดยริปเปิลเข้าร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้ง โดยระบุผ่านบัญชี X (เดิมคือ Twitter) อย่างเป็นทางการว่า “ภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับอุตสาหกรรมและหน่วยงานบังคับกฎหมายในการปิดกั้นการเคลื่อนย้ายเงินผิดกฎหมาย ก่อนที่มันจะออกจากบล็อกเชนสู่ระบบการเงินดั้งเดิม”
ในอีกความเคลื่อนไหวสำคัญ ริปเปิลจับมือกับบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นอย่าง SBI โฮลดิงส์ เพื่อส่ง RLUSD สู่ตลาดญี่ปุ่นผ่านบริษัทลูก ‘SBI VC เทรด’ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มหลักในการจัดจำหน่าย ผู้อำนวยการของ SBI VC เทรด โทโมฮิโกะ คนโด กล่าวว่าการนำ RLUSD เข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นจะช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือและความสะดวกในการใช้งานของสเตเบิลคอยน์ในภูมิภาค แถม RLUSD ยังได้รับการสนับสนุนด้านการดูแลสินทรัพย์จาก BNY เมลลอน และธนาคารอามินาในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งช่วยเสริมความน่าเชื่อถือในหมู่นักลงทุนระดับสถาบันอย่างมาก
ในขณะที่คดีระหว่างริปเปิลกับ SEC มีการยุติอย่างเป็นทางการ เมื่อศาลอุทธรณ์เขตที่ 2 ของสหรัฐฯ อนุมัติเอกสาร ‘การยุติข้อพิพาท’ ที่ทั้งสองฝ่ายยื่นร่วมกัน ซึ่งทำให้สถานการณ์ด้านกฎหมายเข้าสู่ช่วงปิดฉาก โดยการพิจารณาครั้งนี้ส่งผลเชิงบวกต่อราคาของ XRP อย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้ ราคา XRP เคยร่วงลงไปแตะระดับราว 2.8 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,890 บาท) หลังมีแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ แต่ภายหลังคำกล่าวของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ในงานแจ็กสันโฮล ราคาก็เริ่มดีดตัวขึ้น กระทั่งคำตัดสินของศาลช่วยหนุนให้ XRP พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วแตะ 3.1 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,309 บาท) ก่อนจะย่อลงมาอยู่ที่ 3.05 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,240 บาท) โดยนักวิเคราะห์อย่าง อาลี มาร์ติเนซ ระบุว่าระบบ TD Sequential ได้ส่งสัญญาณ ‘ซื้อ’ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญวงการอย่าง CRYPTOWZRD ชี้ว่าระดับต้านถัดไปน่าจะอยู่ที่ 3.3 ดอลลาร์ (ราว 4,587 บาท)
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการคาดการณ์เกี่ยวกับกองทุน XRP ETF ที่เริ่มเป็นกระแสขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่กองทุนประเภทเดียวกันของบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ได้รับไฟเขียวในช่วงก่อนหน้า ขณะนี้มีบริษัทรายใหญ่หลายราย เช่น Bitwise, Franklin Templeton, WisdomTree และ 21Shares ยื่นคำขอต่อ SEC แล้ว โดยในช่วงต้นเดือนสิงหาคม โอกาสได้รับอนุมัติยังอยู่ที่ประมาณ 50% เท่านั้น แต่หลังจากที่ SEC ขอเลื่อนพิจารณา ทำให้ผู้ยื่นคำขอเร่งส่งเอกสารเพิ่มเติม ส่งผลให้แพลตฟอร์มพยากรณ์ตลาด Polymarket ปรับความเป็นไปได้ของการอนุมัติเป็นเหนือตัวเลข 80% ซึ่งนับว่าเป็นสัญญาณแง่บวกเพิ่มเติมสำหรับตลาด
เมื่อพิจารณาทั้งหมดแล้ว ความพยายามของริปเปิลในการผลักดัน RLUSD สู่ตลาดโลก พร้อมคำคาดหวังต่อ XRP ETF ที่เพิ่มขึ้น อาจช่วยผลักดันให้ตลาดเริ่ม ‘ประเมินมูลค่า XRP ใหม่’ ในภาพรวม แม้ว่าทิศทางของตลาดยังคงไม่แน่นอน แต่การเคลื่อนไหวที่หลากหลายของริปเปิลขณะนี้ สะท้อนถึงคำว่า ‘การเปลี่ยนผ่านสำคัญของวงการคริปโตในระยะกลางถึงยาว’ ซึ่งควรจับตามองเป็นพิเศษในช่วงนี้
ความคิดเห็น 0