แม้เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะส่งสัญญาณเชิงผ่อนคลายต่อทิศทางนโยบายการเงิน แต่ตามรายงานของอาเลีย รีเสิร์ช(Alea Research) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตลาดคริปโตก็ยังคงเผชิญกับความผันผวนอย่างต่อเนื่อง อีเธอเรียม(ETH) ซึ่งทำจุดสูงสุดใหม่เมื่อไม่นานมานี้ ก็กลับเข้าสู่ภาวะขาลง โดยภาพรวมการอ่อนตัวของเหรียญอัลต์คอยน์ยังคงเด่นชัด
รายงานระบุว่า ในคำกล่าวที่เมืองแจ็กสันโฮล พาวเวลได้กล่าวถึง ‘แรงงานเริ่มเย็นตัว’ ซึ่งตีความได้ว่าอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ส่งผลให้ดัชนี S&P500 พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 6,500 จุด ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ดี ราคาคริปโตกลับไม่สามารถรักษาโมเมนตัมไว้ได้ หลังการประกาศดัชนี PCE (การใช้จ่ายของผู้บริโภค) โดยเฉพาะบิตคอยน์(BTC) ที่ร่วงจาก 112,000 ดอลลาร์ สู่ระดับต่ำกว่า 110,000 ดอลลาร์
อาเลีย รีเสิร์ชเตือนว่า ข้อมูลเศรษฐกิจจะยิ่งมีบทบาทสำคัญในการชี้นำการลงทุน และกลยุทธ์ ‘ซื้อ-ขายแบบอิงข้อมูล’ จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักลงทุนในตลาดนี้ ความเคลื่อนไหวของตลาดตอกย้ำว่าแม้ PCE จะอยู่ที่ +0.3% เทียบเดือนก่อนหน้า ซึ่งเท่ากับที่คาดไว้ แต่ก็ยังถูกตีความว่าร้อนแรงพอที่จะทำให้เฟด ‘อาจ’ ชะลอการผ่อนคลายทางการเงิน
อย่างไรก็ตาม อาเลีย รีเสิร์ชยังคงมองว่าตลาดมี ‘แนวโน้มขาขึ้น’ อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอีเธอเรียมที่ยังคงรักษาโครงสร้างทางเทคนิคที่แข็งแกร่งในระยะยาว ในช่วง 180 วันที่ผ่านมา ETH เป็นสินทรัพย์เพียงหนึ่งเดียวที่ยังคงแสดงผลตอบแทนเป็นบวกที่ +4.7%
ในแง่กลยุทธ์การลงทุน รายงานเสนอพอร์ต ‘ซื้อ-ขายแบบสมดุล’ โดยเน้นการถือ ETH(20%), ไฮป์(HYPE)(20%) และโซลานา(SOL)(15%) เป็นแกนหลักของฝั่งซื้อ สำหรับหมวดดิไฟน์(DeFi) โปรเจ็กต์ที่น่าสนใจได้แก่ เอฟฟ์(Aave), เพนเดิล(Pendle), เชนลิงค์(LINK), อีเธอไฟ(ETHFI) และฟลูอิด(Fluid) โดยเฉพาะไฮเปอร์ลิควิด(HYPE) ที่ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่จากรายได้ค่าธรรมเนียมต่อเนื่อง และการซื้อคืนโทเคนตามผลงาน
ฝั่งขายชอร์ต อาเลีย รีเสิร์ชแนะนำให้เน้น BTC(30%) พร้อมใช้เหรียญที่มีสภาพคล่องสูงอย่าง คาร์ดาโน(ADA), เฮเดรา(HBAR), อะตอม(ATOM), ดอต(DOT), ชิบะอินุ(SHIB) และเฟตช์เอไอ(FET) เพื่อบริหารความเสี่ยง ฝั่ง ETH ยังมีแรงหนุนจากเงินทุนไหลเข้าสู่ ETF แบบสปอตมูลค่า 1.08 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่า BTC ถึง 2.25 เท่า ส่งผลให้ ETH/BTC มีแนวโน้มแข็งค่าต่อ
ขณะเดียวกัน ตลาด ‘การพยากรณ์’ อย่างโพลีมาร์เก็ต(Polymarket) และคัลชิ(Kalshi) ก็กำลังได้รับความนิยม โดยเฉพาะการเดิมพันว่าเฟดจะ ‘ตรึงดอกเบี้ย’ สร้างการเชื่อมโยงระหว่างตลาดคริปโตและเกมเบิลไฟ(GambleFi) ความน่าสนใจอีกประเด็นอยู่ที่ ทรัมป์ ซึ่งอาจเข้ามาแทรกแซงการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่เฟดในอนาคต อาจสะท้อนถึงความเสี่ยงของนโยบายการเงินและการเปลี่ยนแปลงทิศทางของค่าเงินดอลลาร์
เหรียญอย่าง ETH, SOL และ HYPE ถูกมองว่ายังมี ‘ศักยภาพขาขึ้น’ ที่ชัดเจน ต่างจากกลุ่มโทเคนที่เกี่ยวกับ AI และ DePIN ที่เริ่มแสดง ‘โครงสร้างอ่อนแอ’ นักลงทุนจึงหันมาสนใจการหมุนเวียนพอร์ตการลงทุนและหยุดขาดทุนเชิงกลยุทธ์ (cut-loss) มากขึ้น
สุดท้าย อาเลีย รีเสิร์ชชี้ว่า การประชุม FOMC วันที่ 16–17 กันยายน จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดในระยะสั้น นักลงทุนควรวางแผนตอบสนองต่อข้อมูลเศรษฐกิจ และจับตาโทเคนที่แสดงสัญญาณโมเมนตัมพิเศษในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้าอย่างใกล้ชิด
‘ความคิดเห็น’: บทวิเคราะห์นี้ตอกย้ำว่าข้อมูลเศรษฐกิจมีผลต่อคริปโตมากขึ้นในระดับใกล้เคียงกับตลาดหุ้นและทองคำ นักลงทุนคริปโตอาจต้องเร่งพัฒนาทักษะการวิเคราะห์มหภาคมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0