คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) และคณะกรรมการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) เริ่มต้นการพิจารณาอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับ ‘ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาดทุนให้เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง’ ตามรายงานเมื่อวันที่ 7 (เวลาท้องถิ่น) โดยทั้งสองหน่วยงานได้ออกแถลงการณ์ร่วม ซึ่งมุ่งเน้นถึงความจำเป็นของตลาดที่เปิดทำการตลอดเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลก และการกำหนดกรอบกำกับดูแลที่ชัดเจนสำหรับอนุพันธ์ของสกุลเงินดิจิทัล
ในแถลงการณ์ดังกล่าว SEC และ CFTC กล่าวอย่างชัดเจนว่า เพื่อให้ระบบ ‘การเงินบนบล็อกเชน(On-chain Finance)’ สามารถเติบโตอย่างเต็มประสิทธิภาพ ‘ตลาดที่เปิดซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง’ สำหรับสินทรัพย์ทุกประเภทถือเป็นข้อจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ‘สัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบไม่มีวันครบกำหนด’ และ ‘สัญญาที่อ้างอิงเหตุการณ์เฉพาะ’ ทำให้การสร้างกรอบกำกับดูแลใหม่ ถือเป็นโจทย์สำคัญ
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ย้ำว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ได้จำกัดแค่ตลาดคริปโตเท่านั้น โดยกล่าวว่า หากขยายเวลาเปิดตลาดอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ตลาดทุนของสหรัฐฯ มีความสอดคล้องกับรูปแบบเศรษฐกิจโลกที่ ‘ไม่มีวันหลับใหล’ หรือ Always-on Economy มากยิ่งขึ้น พร้อมระบุชัดว่าจะไม่ใช้ ‘แนวทางเดียวกันทั้งหมด’ กับทุกสินทรัพย์ เพราะลักษณะเฉพาะของแต่ละตลาดยังแตกต่างกันอยู่มาก
การหารือดังกล่าวถือว่าอาจส่งอิทธิพลอย่างลึกซึ้งถึงโครงสร้างตลาดการเงินแบบดั้งเดิมของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในแง่ของการจัดเวลาเปิดปิดตลาด Wall Street เนื่องจากคริปโตเคอร์เรนซีชั้นนำอย่าง *บิตคอยน์(BTC)*, *อีเธอเรียม(ETH)* และ *โซลานา(SOL)* ต่างก็ซื้อขายกันแบบ 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว การผลักดันให้ตลาดแบบดั้งเดิมเข้าใกล้โครงสร้างนี้มากขึ้น จึงเป็นแนวทางที่น่าจับตามอง
นอกจากนี้ หนึ่งในหัวข้อร่วมที่กำลังศึกษา คือ *‘สัญญาอิงเหตุการณ์ (Event Contracts)’* ซึ่งกำหนดผลตอบแทนจากการเกิดขึ้นของเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง เช่น การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดทำนายชัยชนะของประธานาธิบดีทรัมป์กลับมาเป็นที่นิยม ขณะเดียวกัน ประเด็นเรื่องสุญญากาศของกฎเกณฑ์ในสัญญาประเภทนี้ก็ได้รับการหยิบยกเป็นข้อกังวลจากภาคส่วนต่างๆ ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ยังระบุข้อควรระวังเกี่ยวกับความเสี่ยงของตลาดที่ไม่ปิดตลอด 24 ชั่วโมงว่า แม้จะช่วยเพิ่ม ‘อัตราการหมุนเวียนของทุน’ ได้มากขึ้น แต่ ‘ความผันผวนของราคา’ และ ‘ความเสี่ยงที่นักลงทุนอาจเสียเปรียบผู้เล่นต่างชาติในช่วงเวลาที่ไม่สามารถติดตามตลาดได้’ ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาเช่นกัน
ท่าทีที่ชัดเจนของ SEC และ CFTC ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงที่จะศึกษาและอาจนำไปสู่การปรับโครงสร้างตลาดทุนโดยรวม ซึ่งจะไม่ได้จำกัดเพียงแต่ตลาดคริปโตเท่านั้น โดยหัวใจสำคัญในการพูดคุยต่อไปจะอยู่ที่ *‘การขยายโอกาสให้กับนักลงทุนทั่วโลก’* และ *‘แนวทางการจัดการความเสี่ยงในระบบตลาดแบบไม่มีเวลาหยุดพัก’*
ความคิดเห็น 0