บริษัทโคสคอม (Koscom) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้าน IT ในตลาดทุนของเกาหลีใต้ และมีตลาดหลักทรัพย์เกาหลีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้เริ่มเดินหน้า *ขยายธุรกิจเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์ที่อิงกับเงินวอน* โดยได้ยื่นขอเครื่องหมายการค้าถึง 5 รายการเมื่อไม่นานมานี้ ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลเกาหลีใต้ในการผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ *สเตเบิลคอยน์* และ *โทเคนหลักทรัพย์ (STO)* ซึ่งสะท้อนว่าโคสคอมเตรียมตัวรุกคืบตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจัง
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โคสคอมได้เริ่มต้น *ทดสอบระบบการชำระเงินของโทเคนหลักทรัพย์โดยใช้สเตเบิลคอยน์* ในลักษณะของโครงการทดสอบแนวคิด (PoC) โดยเป้าหมายคือการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีในตลาดทุนให้พร้อมรองรับสภาพแวดล้อมที่สเตเบิลคอยน์จะถูกนำมาใช้ในอนาคต *ความคิดเห็น* จากตัวแทนบริษัทระบุว่า นี่คือ “กลยุทธ์เชิงรุกเพื่อการออกแบบระบบพื้นฐานในระยะยาว”
เพื่อสนับสนุนทิศทางใหม่นี้ โคสคอมได้ปรับโครงสร้างองค์กร โดยเปลี่ยนแปลงฝ่ายธุรกิจอนาคตมาเป็น *ทีมปฏิบัติการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล* พร้อมทั้งทำงานร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ 7 แห่งเพื่อพัฒนาโครงข่ายทางเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการ ‘ออกและกระจายโทเคนหลักทรัพย์’ องค์ประกอบเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้กับโครงการต่าง ๆ ของโคสคอม ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะสามารถนำไปใช้ในตลาดจริงได้อย่างรวดเร็วโดยสอดคล้องกับการร่างกฎหมายกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของเกาหลีใต้ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้
ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงประเมินว่าหาก *สเตเบิลคอยน์ที่อิงกับเงินวอน* สามารถสร้างความน่าเชื่อถือและมีเสถียรภาพได้ในระดับหนึ่ง ระบบนิเวศของโทเคนหลักทรัพย์(STO) ในประเทศอาจเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากลักษณะของโทเคนหลักทรัพย์นั้นจำเป็นต้องมีความร่วมมือระหว่างบริษัทการเงินแบบดั้งเดิมและผู้ให้บริการเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งโคสคอมถือเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญในภาคส่วนนี้
ขณะเดียวกัน วงการอุตสาหกรรมก็จับตามองการขอจดเครื่องหมายการค้าของโคสคอมว่ามีชื่อและแนวทางการใช้งานอย่างไร เพราะ *สเตเบิลคอยน์ในปัจจุบันไม่ได้ใช้เพียงแค่ชำระเงิน* เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทใน *การชำระราคาสินทรัพย์, การเคลียร์ธุรกรรมในตลาดทุน และการโอนเงินข้ามพรมแดน* อย่างแพร่หลาย
การเดินหน้าของโคสคอมจึงถูกมองว่าเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนา *สเตเบิลคอยน์ที่ออกแบบให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของตลาดทุนในประเทศ* ซึ่งหากกฎหมายผ่านในไม่ช้านี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ระบบดังกล่าวจะถูกนำมาใช้เชิงพาณิชย์ได้จริงในเวลาอันสั้น
ความคิดเห็น 0