สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ เสนอร่างกฎหมายควบคุม ‘สเตเบิลคอยน์’ อย่างเป็นทางการ
สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตร่วมกันเสนอร่างกฎหมายใหม่เพื่อควบคุม ‘สเตเบิลคอยน์’ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความชัดเจนด้านกฎระเบียบในอุตสาหกรรมคริปโต พร้อมทั้งสนับสนุนการปกป้องผู้บริโภคและส่งเสริมการเติบโตของนวัตกรรมทางการเงิน
ร่างกฎหมายฉบับนี้มีชื่อว่า ‘GENIUS’ (Guiding and Establishing National Innovation for U.S. Stablecoins) และถูกนำเสนอโดยสมาชิกวุฒิสภาบิล แฮ็กเกอร์ตี(Bill Hagerty), ทิม สก็อตต์(Tim Scott), ซินเทีย ลัมมิส(Cynthia Lummis) จากพรรครีพับลิกัน และเคิร์สเทน กิลลิแบรนด์(Kirsten Gillibrand) จากพรรคเดโมแครต กฎหมายดังกล่าวกำหนดให้ ‘สเตเบิลคอยน์’ เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าผูกกับ ‘ดอลลาร์สหรัฐ’ พร้อมกับระบุหลักเกณฑ์ด้านใบอนุญาตและข้อกำหนดเกี่ยวกับทุนสำรองของผู้ออกเหรียญ
ร่างกฎหมายนี้กำหนดให้ผู้ออกสเตเบิลคอยน์ที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 14.5 ล้านล้านวอน) ต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อเหรียญสเตเบิลคอยน์รายใหญ่อย่าง ‘เทเธอร์(USDT)’ และ ‘เซอร์เคิล(USDC)’ ในขณะที่ผู้ออกเหรียญที่มีมูลค่าต่ำกว่านั้นสามารถอยู่ภายใต้การกำกับดูแลในระดับรัฐ และอาจได้รับการยกเว้นจากกฎระเบียบในบางกรณี
บิล แฮ็กเกอร์ตี หนึ่งในผู้เสนอร่างกฎหมายกล่าวว่า “กฎหมายนี้จะสร้างกรอบการกำกับดูแลที่ปลอดภัยและเอื้อต่อการเติบโต ทำให้สหรัฐฯ ก้าวไปสู่การเป็น ‘ศูนย์กลางคริปโตระดับโลก’ ตามเป้าหมายของประธานาธิบดีทรัมป์”
ทิม สก็อตต์ หนึ่งในวุฒิสมาชิกกล่าวเสริมว่า “สเตเบิลคอยน์มีบทบาทสำคัญในการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและมีต้นทุนต่ำ อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือเพิ่มการเข้าถึงทางการเงิน ดังนั้น กฎหมายฉบับนี้จะช่วยให้สหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมคริปโต”
ปัจจุบัน มูลค่าตลาดรวมของสเตเบิลคอยน์อยู่ที่ประมาณ 227,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 329 ล้านล้านวอน) ซึ่งคิดเป็นเพียง 1% ของอุปทานเงินดอลลาร์และตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดคาดว่าตลาดนี้จะเติบโตขึ้นกว่าสิบเท่า ทำให้มีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในระบบการเงินโลก
ทั้งนี้ นักวิจัยจากเดลฟี ดิจิทัล(Delphi Digital) คาดการณ์ว่าสเตเบิลคอยน์จะกลายเป็น ‘เครื่องมือการชำระเงินหลัก’ ไม่เพียงแค่ในภาค ‘การเงินแบบกระจายศูนย์(DeFi)’ แต่ยังรวมถึงภาคธนาคารแบบดั้งเดิม เนื่องจากราคาของเหรียญมีความผันผวนน้อยกว่าสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ส่งผลให้สามารถใช้เป็นสื่อกลางในการชำระเงินและเก็บรักษามูลค่าได้ดียิ่งขึ้น
หากร่างกฎหมายนี้ผ่านการอนุมัติ กฎระเบียบเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์จะมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนสถาบันและกระตุ้นการเติบโตของอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ประเด็นเกี่ยวกับขอบเขตของกฎระเบียบและเงื่อนไขในการยกเว้นยังคงเป็นที่ถกเถียงในสภา ซึ่งอาจส่งผลต่อความคืบหน้าของร่างกฎหมายนี้ในอนาคต
ความคิดเห็น 0