อาเลอา รีเสิร์ช(Alea Research) บริษัทวิเคราะห์ด้านคริปโตระดับโลก ออกรายงานเตือนเมื่อไม่นานนี้ว่า แม้ความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยจะถูกสะท้อนในตลาดการเงินเรียบร้อยแล้ว แต่โอกาสการปรับตัวขึ้นในระยะสั้นยังถูกจำกัด ขณะที่ความเสี่ยงในทิศทางขาลงกลับเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะตลาดคริปโตที่เข้าสู่ช่วง ‘โรเตชัน’ หรือการหมุนเวียนของกระแสเงินทุน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดกำลังเข้าสู่เฟสใหม่ที่กำลังค้นหาทิศทางอีกครั้ง
ก่อนและหลังคำกล่าวของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ตลาดได้สะท้อนความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ย 0.25% มากกว่า 90% แล้ว ซึ่งหมายความว่า หากไม่มีข่าวดีเหนือความคาดหมาย ตลาดอาจเผชิญแรงขายเพิ่มเติม อาเลอา รีเสิร์ช指出ว่า “การลดดอกเบี้ยแบบง่ายหรือเร็ว ไม่ได้แปลว่า ‘สินทรัพย์เสี่ยง’ จะปรับตัวขึ้นโดยอัตโนมัติ” พร้อมเน้นว่า “ตลาดขาขึ้นเกิดได้จากการเปลี่ยนมุมมองของนักลงทุน ไม่ใช่แค่ความคาดหวัง”
รายงานยังตั้งข้อสังเกตว่า แม้เฟดจะเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงิน แต่เงินเฟ้อและตลาดแรงงานที่ยังอ่อนแอ ยังคงเป็นปัจจัยความเสี่ยง ซึ่งส่งผลให้ปฏิกิริยาของนักลงทุนขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของธนาคารกลางและสภาพคล่องในระบบมากกว่าจะตอบสนองต่อการลดดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว
อาเลอา รีเสิร์ชยังให้ความเห็นว่า ความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้น รวมถึงกระแสเงินทุนที่ไหลเข้ามาผ่าน ‘โทเคนสินทรัพย์ดิจิทัล’ (DAT) และกองทุน ETF ได้กระจุกตัวไปยังบางโทเคน โดยเฉพาะในระบบนิเวศของโซลานา(SOL) อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังตรวจพบสัญญาณการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มภายในตลาดคริปโต โดยในขณะที่ราคาของบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) มีความผันผวนน้อยลง กลุ่มสินทรัพย์ที่สร้างบนโซลานากลับปรับตัวแข็งแกร่ง โดยโปรเจกต์อย่างดริฟต์(DRIFT), คาเมโน(KMNO), และปั๊ม(PUMP) ต่างได้รับความสนใจและทำสถิติการปรับตัวขึ้นในระดับสองหลัก โดยมีการระดมทุนจาก Forward Industries ที่เข้ามาหนุนการเติบโตและบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแนวโน้มของเงินทุน
ปัจจัยส่งเสริมอื่นคือ ศักยภาพในการเปลี่ยนโซลานาไปสู่ ETF รวมกับโครงสร้าง DAT ที่รับประกันรายได้พื้นฐานได้จริง ทำให้การลงทุนใน SOL เร่งตัวขึ้น ยิ่งเมื่ออาร์ก(Ark) ของแคธี วูด(Cathie Wood) เข้าเพิ่มการถือครองโทเคนโซลเมท ยิ่งเป็นการสะท้อนความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในโซลานา ทั้งนี้ วันที่คาดว่าจะมีการตัดสิน ETF ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเร่งสำคัญ ซึ่งอาเลอา รีเสิร์ชชี้ว่าสะท้อนรูปแบบ ‘ภาวะผู้นำตามธีม’ ที่ชัดเจนมากขึ้นในตลาดคริปโต
ในด้านอื่น โทเคนอย่างไบแนนซ์คอยน์(BNB) ได้แรงหนุนจากความคาดหวังว่าฉางเผิง เจา(CZ) อาจกลับมามีบทบาทอีกครั้ง โดยสามารถทำสถิติราคาสูงสุดใหม่ได้ พร้อมทั้งมีการฟื้นตัวของการโรเตชันในกลุ่มเหรียญทางเลือก อาทิ HYPE และ MYX ที่มี ‘เรื่องเล่าใหม่’ จึงเข้ามาร่วมขาขึ้นในตลาด BNB ยังมีปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติม เช่น การเจรจากับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ และแผนการเผาเหรียญครั้งใหญ่ในไตรมาสหน้า
อย่างไรก็ตาม เหรียญแนวมีมที่มีรูปแบบสตรีมมิงอย่างปั๊ม(PUMP) เริ่มเผชิญความกดดันจากแรงขายทำกำไรและการดูดซับสภาพคล่อง แม้จะยังรักษาโครงสร้างผลตอบแทนที่เน้นผู้ผลิตคอนเทนต์ แต่ก็มี ‘ความคิดเห็น’ ว่าระดับผลกำไรของนักเทรดอาจยั่งยืนได้ไม่นาน หากไม่มีมาตรการซื้อคืนต่อเนื่อง แรงขายอาจเร่งตัวขึ้น
ความเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ดิจิทัลยังสะท้อนไปสู่ตลาดหุ้นด้วย โดยแพลตฟอร์มอย่างโรบินฮูดกำลังเปลี่ยนไปสู่การเป็นแอปการเงินระดับโลก ด้วยฟีเจอร์ เช่น การคัดลอกการเทรด, AI และโทเคนของสินทรัพย์ ขณะเดียวกัน เทสลา(TSLA) ก็กำลังเร่งแผนโฟกัสที่หุ่นยนต์ ส่งผลให้เกิดการประเมินมูลค่าใหม่เหนือกว่าแค่หุ้นเทคทั่วไป การเคลื่อนไหวนี้อาจชี้ถึงจุดเริ่มต้นของ ‘การผสานระหว่างคริปโตกับสินทรัพย์แบบดั้งเดิม’ และยังส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในมุมมองการจัดพอร์ตการลงทุนอย่างชัดเจน
อาเลอา รีเสิร์ชสรุปว่า สถานการณ์ตลาดยังคงเป็น ‘ตลาดกระทิงที่ไม่สมบูรณ์’ ที่ต้องระวังการถอยชั่วคราวอยู่เสมอ แม้กระแสเงินทุนจาก DAT และ ETF จะช่วยกำหนดโฟกัสการลงทุนใหม่ แต่ช่วงต่อจากนี้ นักลงทุนควรให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานของแต่ละโปรเจกต์ และมีวินัยในกลยุทธ์เข้าซื้อเมื่อโรเตชันและขายทำกำไรเมื่อราคาปรับขึ้นเพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาดในระยะกลางถึงยาว
ความคิดเห็น 0