ราคาของริปเปิล(XRP) ร่วงลง 5% เมื่อวันที่ 24 ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงแนวโน้มการปรับฐานเพิ่มเติมในระยะสั้น
ตามข้อมูลตลาดคริปโต XRP ลดลง 5% มาอยู่ที่ 2.49 ดอลลาร์ หลังจากไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 2.60 ดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้ราคายังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (SMA) และเผชิญกับแรงกดดันขาลงต่อเนื่อง
แรงขายใน XRP สอดคล้องกับการปรับตัวลงของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวม บิตคอยน์(BTC) ลดลง 0.7% มาอยู่ที่ 95,900 ดอลลาร์ ขณะที่อีเธอเรียม(ETH) ลดลง 3.6% แตะระดับ 2,700 ดอลลาร์ ด้านโซลานา(SOL), ดอจคอยน์(DOGE) และคาร์ดาโน(ADA) ต่างร่วงลง 7%, 5.5% และ 5.2% ตามลำดับ
สถานการณ์ตลาดขาลงนำไปสู่การชำระบัญชีครั้งใหญ่ในตลาดฟิวเจอร์ส ตามข้อมูลของ CoinGlass มีการชำระบัญชีสถานะเลเวอเรจเป็นมูลค่ารวม 234 ล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมง โดยในจำนวนนี้ 187 ล้านดอลลาร์เป็นสถานะ ‘Long’ สำหรับ XRP เพียงอย่างเดียวมีการปิดสถานะ Long มูลค่า 9.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อราคาลงไปอีก
ตัวชี้วัดทางเทคนิคบ่งบอกว่า XRP อาจเผชิญกับการปรับฐานต่อไป ตั้งแต่วันที่ 15 ถึง 24 กุมภาพันธ์ ราคาลดลงกว่า 11% และหลุดระดับ SMA 50 วันที่ 2.73 ดอลลาร์ หากระดับนี้กลายเป็นแนวต้าน XRP อาจลงไปที่ 2.00 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หากราคาสามารถยืนเหนือ SMA 100 วันที่ 2.40 ดอลลาร์ได้ อาจมีโอกาสกลับไปทดสอบแนวต้าน 2.72 ดอลลาร์อีกครั้ง
นักวิเคราะห์คริปโต 'Dark Defender' ให้ความเห็นว่า "XRP จะต้องทะลุ 2.77 ดอลลาร์อย่างมั่นคงเพื่อเข้าสู่ขาขึ้นรอบใหม่"
อีกปัจจัยหนึ่งที่สะท้อนความอ่อนแอของตลาด XRP คืออัตรา Funding Rate ที่ลดลงอย่างรวดเร็ว จาก 0.25% เมื่อวันที่ 22 เหลือเพียง 0.04% ในวันที่ 24 ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการเปิดสถานะ Long ลดลง และนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังมากขึ้น
โดยสรุป หาก XRP ไม่สามารถฝ่าด่าน SMA 50 วันได้ในเร็วๆ นี้ ความเป็นไปได้ที่ตลาดจะเผชิญแรงขายต่อไปยังคงมีอยู่ นักลงทุนควรติดตามแนวรับและแนวต้านสำคัญ พร้อมวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
ความคิดเห็น 0