ราคาบิตคอยน์(BTC) พุ่งทะลุ 114,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 15.8 ล้านบาทต่อเหรียญ) สร้างความตื่นเต้นให้กับตลาด แต่ในแง่ของตลาดอนุพันธ์กลับสะท้อนถึง *ความกังวลของนักลงทุน* อย่างชัดเจน โดยมีการประเมินค่าสูงใน ‘พุตออปชัน’ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เดิมพันว่าราคาจะลดลง สะท้อนให้เห็นว่า แม้ราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่อารมณ์ของตลาดยังคงเตรียมรับมือกับความเป็นไปได้ที่ราคาจะ ‘ทรุด’ ลงได้ทุกเมื่อ
บรรยากาศนี้อาจเป็นผลจากปัจจัยเฉพาะของตลาดคริปโต แต่ ‘เศรษฐกิจมหภาค’ ก็มีอิทธิพลเช่นกัน เมื่อข้อมูลล่าสุดในสหรัฐเผยตัวเลขตำแหน่งงานว่างเดือนพฤษภาคมลดลงใกล้ระดับ ‘ต่ำสุดในรอบ 5 ปี’ ทำให้ความเสี่ยงจากภาวะถดถอยกลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง ความต้องการแรงงานที่ลดลงอาจส่งผลต่อการใช้จ่ายภาคครัวเรือน และท้ายที่สุดอาจกระทบต่อความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโต
แม้ภาพรวมจะดูไม่แน่นอน แต่ความต้องการซื้อบิตคอยน์ของนักลงทุนสถาบันและบริษัทจดทะเบียนยังคง ‘แข็งแกร่ง’ ตัวอย่างชัดเจนคือ ‘ETF บิตคอยน์สปอต’ ที่มีเงินไหลเข้าในวันจันทร์เพียงวันเดียวถึง 372.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.17 พันล้านบาท) ขณะเดียวกัน บริษัทบางแห่งยังเดินหน้าซื้อสะสม บิตคอยน์ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกำลังลด *อุปทานที่สามารถขายได้ในตลาด* ลงไปอีก
*ความคิดเห็น*: ปัจจัยนี้สะท้อนว่า แม้นักลงทุนจะระวังความเสี่ยงระยะสั้น แต่แรงซื้อระยะกลางถึงยาวก็ยังคงมีอยู่มาก และอาจเป็นตัวพยุงราคาบิตคอยน์ไม่ให้ตกลงรุนแรง
ท้ายที่สุด ภาพรวมตลาดในวันนี้สะท้อน ‘สองกระแส’ ที่สวนทางกัน ทั้งความเสี่ยงจากสภาพเศรษฐกิจโลก และอุปสงค์-อุปทานในตลาดคริปโต นักลงทุนจึงต้องติดตามทั้ง ‘เศรษฐกิจมหภาค’ และ ‘ความสมดุลของบิตคอยน์’ อย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินทิศทางในระยะถัดไป
ความคิดเห็น 0