แม้ความสนใจในทรัพย์สินดิจิทัลจากนักลงทุนสถาบันจะยังคงแข็งแกร่ง แต่การลงทุนในภาค *บริษัทร่วมลงทุน(VC)* กลับเผชิญกับภาวะเยือกแข็งอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในสตาร์ตอัปด้าน *คริปโตเคอร์เรนซี* และ *บล็อกเชน* ที่ได้รับเงินลงทุนลดลงอย่างมากในไตรมาส 2 ของปีนี้ ท่ามกลางแรงผลักจากภาคการเงินดั้งเดิมและบริษัทขนาดใหญ่ที่หันมาให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น
ตามรายงานของ *กาแล็กซี รีเสิร์ช(Galaxy Research)* ที่เปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ สตาร์ตอัปด้านคริปโตและบล็อกเชนทั่วโลกได้รับเงินลงทุนรวมเพียง 1.97 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นประมาณ 2.73 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 2 ปีนี้ ตัวเลขนี้ลดลงถึง *59%* เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่จำนวนดีลการลงทุนลดลง *15%* เหลือเพียง 378 ดีล นับเป็นผลงานไตรมาสที่ต่ำที่สุดเป็นอันดับสองรองจากไตรมาส 4 ปี 2020
ผู้เชี่ยวชาญในตลาดมองว่า การลดลงของเงินทุนในรอบนี้สะท้อนให้เห็นว่า *ความสัมพันธ์ระหว่างราคาบิตคอยน์(BTC) และการลงทุนจาก VC กำลังสั่นคลอน* ทั้งที่ในอดีต บิตคอยน์ที่มีราคาสูงมักเป็นแรงจูงใจให้ VC เข้ามาเทเงินลงทุนจำนวนมาก แต่ในปัจจุบัน กลไกดังกล่าวกลับไม่แสดงสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน
กาแล็กซีชี้ว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เงิน VC หายไปจากวงการคริปโตคือ *ตลาดให้ความสำคัญกับการสะสมบิตคอยน์มากขึ้น แทนที่จะกระจายความสนใจไปยังโครงการอื่นๆ* การมองว่าบิตคอยน์เป็นทรัพย์สินสะสมที่ปลอดภัย ส่งผลให้พื้นที่ของ VC ที่เน้นการลงทุนในสตาร์ตอัปหลากหลายแนวทางหดตัวลง
*ความคิดเห็น*: ตัวเลขเหล่านี้ตอกย้ำถึงความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในอุตสาหกรรม VC ที่มีต่อคริปโตเคอร์เรนซี โครงการต่างๆ ในตอนนี้จำเป็นต้องเน้นไปที่ *ความสามารถในการสร้างรายได้และการพัฒนาเทคโนโลยีที่จับต้องได้* มากกว่าการสร้างกระแสหรือความหวือหวาเหมือนในอดีต
ปรากฏการณ์นี้จึงไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขการลงทุนที่ลดลง แต่ยังเป็นสัญญาณว่า *VC อาจกำลังปรับโมเดลธุรกิจหรือเล็งเป้าการลงทุนใหม่* ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาดคริปโตในระยะยาว
ความคิดเห็น 0