บิตคอยน์(BTC) กำลังเผชิญสถานการณ์ *ขาดแคลนซัพพลายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์* ขณะที่ราคาทะยานใกล้จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทการเงินดั้งเดิมชื่อดังอย่าง *แวนเอค(VanEck)* ออกมาเตือนว่าบิตคอยน์กำลังหายไปจากตลาดอย่างชัดเจน
แมธธิว ซีเกล(Matthew Sigel) หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของแวนเอค เปิดเผยผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า *“ภายในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ อาจหาเหรียญบิตคอยน์ได้ยากจากตลาดแลกเปลี่ยน”* พร้อมบอกว่าตอนนี้คือช่วงเวลาที่ดีในการเข้าซื้อ เมื่อถูกตั้งข้อสังเกตว่าแนวคิดเรื่องการขาดแคลนนี้มีมาหลายปีแล้ว เขายืนยันว่า *“วันนี้ผมได้รับโทรศัพท์จากตลาดแลกเปลี่ยน และเราตัดสินใจไม่ขาย”* ระบุถึงแรงกดดันด้านอุปสงค์ที่กำลังเกิดขึ้นจริง
การออกมาแสดงความเห็นของซีเกล สะท้อนถึงปัญหาที่นักลงทุนสถาบันและวาฬจำนวนมาก กำลังเผชิญเมื่อพยายามเข้าซื้อบิตคอยน์ผ่านแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเคลื่อนย้ายบิตคอยน์ออกจากตลาดแลกเปลี่ยนไปยัง *กระเป๋าส่วนตัวแบบควบคุมด้วยตนเอง (Self-custody)* อย่างชัดเจน และแนวโน้มนี้หมายความว่า *สภาพคล่องที่ลดลง อาจผลักดันให้ราคาพุ่งขึ้นต่อเนื่อง*
ในขณะที่ราคา ณ ตอนนี้ บิตคอยน์ซื้อขายอยู่ที่ราว *122,179 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.7 ล้านบาท)* โดยเพิ่มขึ้นราว 1.52% ภายในวัน ส่วนราคาสูงสุดที่ทำได้ในวันเดียวกันคือ 123,944 ดอลลาร์ ซึ่งห่างจากระดับสูงสุดตลอดกาลเพียงแค่ 1.89% เท่านั้น โดยมูลค่าการซื้อขายใน 24 ชั่วโมงอยู่ที่ *735.1 พันล้านดอลลาร์ (ราว 102 ล้านล้านวอน)* เพิ่มขึ้น 1.12% สะท้อนถึงความคึกคักในตลาด
นอกจากนี้ยังพบว่าแนวโน้มการเก็งกำไรผ่าน *ตลาดอนุพันธ์ของบิตคอยน์* มีน้ำหนักต่อการพุ่งขึ้นของราคาเช่นกัน โดยข้อมูลล่าสุดพบว่ามียอด *สัญญาค้างส่งมอบ (Open Interest)* อยู่ที่ประมาณ 45.3 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 62.9 ล้านล้านวอน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่า *นักลงทุนเชื่อมั่นในแนวโน้มราคาขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง*
ด้านเจฟฟ์ เคนดริก(Geoff Kendrick) นักวิเคราะห์จาก *ลอนดอน สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด(Standard Chartered)* เผยว่า บิตคอยน์อาจพุ่งสูงถึง *200,000 ดอลลาร์ (ราว 2.78 ล้านบาท)* ภายในสิ้นปี 2025 โดยเน้นถึงความเกี่ยวพันระหว่าง *ต้นทุนหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ระยะยาว* กับราคาบิตคอยน์ และชี้ให้เห็นว่าความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกอาจทำให้บิตคอยน์กลายเป็น ‘ทรัพย์สินทางเลือก’ ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
นักลงทุนในตลาดกำลังจับตาว่าปัญหา *ขาดแคลนบิตคอยน์ในตลาดแลกเปลี่ยน* จะจุดประกายให้ *มูลค่าของบิตคอยน์เข้าสู่ช่วงขาขึ้นในเชิงโครงสร้าง* ไม่ใช่แค่การเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น และชื่อเดือนตุลาคมที่ถูกขนานนามว่า *‘Uptober’* กำลังสร้างความหวังให้กับนักลงทุนว่าเดือนนี้อาจเป็น *จุดเปลี่ยนสำคัญของบิตคอยน์ในปีนี้* ได้อย่างแท้จริง
ความคิดเห็น 0