ชางเผิง จ่าว(Changpeng Zhao) หรือที่รู้จักในชื่อ ‘CZ’ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไบแนนซ์(Binance) อาจได้รับ ‘การอภัยโทษ’ ในเร็ว ๆ นี้ ตามรายงานของสื่อฝั่งอนุรักษ์นิยมในสหรัฐอย่าง *Fox Business* ซึ่งระบุว่าประเด็นนี้กำลังถูกหารืออย่างเข้มข้นภายในทำเนียบขาว
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ชาร์ลส์ แกสปาริโน(Charles Gasparino) ผู้สื่อข่าวอาวุโสของ *Fox Business* เปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดีย โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่าในทำเนียบขาวกำลังมีการถกเถียงเรื่องความเป็นไปได้ในการอภัยโทษให้จ่าว โดยทั้งประเด็นทางกฎหมายและผลกระทบทางการเมืองล้วนมีบทบาทต่อการตัดสินใจในเรื่องนี้
ชางเผิง จ่าวเคยยอมรับผิดในข้อหา ‘ละเมิดกฎหมายความลับของธนาคารสหรัฐ’ (BSA) และถูกศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 4 เดือน ซึ่งนับเป็นกรณีของบุคคลที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในเรือนจำของสหรัฐ จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเข้มงวดด้าน ‘การกำกับดูแลคริปโต’ ของรัฐบาลวอชิงตันในช่วงนั้น
แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากวงการคริปโตหลายฝ่ายว่า การดำเนินคดีกับจ่าวนั้น ‘รุนแรงเกินเหตุ’ ความเห็นหนึ่งจากแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมที่ไม่เปิดเผยชื่อระบุว่า “หลายคนมองว่ามันเป็นเพียงเรื่องของการตีความกฎระเบียบที่คลาดเคลื่อนมากกว่าเป็นอาชญากรรมทางอาญา” จ่าวได้ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอในปลายปี 2023 และสิ้นสุดบทบาททุกอย่างในไบแนนซ์หลังจากนั้น
ในขณะที่เมื่อเดือนมีนาคม จ่าวเคยปฏิเสธรายงานของ *The Wall Street Journal* ซึ่งระบุว่าเขาได้ยื่นขออภัยโทษ โดยกล่าวว่า “ข้อมูลนี้ไม่เป็นความจริง” แต่ต่อมาในรายการพอดแคสต์ เขากลับยอมรับว่า “ทีมกฎหมายได้ยื่นคำร้องขออภัยโทษหลังจากรายงานนั้นเผยแพร่” ซึ่งเปลี่ยนกระแสข่าวจาก ‘ข่าวลือ’ สู่ ‘ข้อเท็จจริง’ อย่างชัดเจน
ปัจจัยที่หลายคนจับตาคือ ถ้าหากจ่าวได้รับการอภัยโทษ เขาจะสามารถ ‘กลับมาบริหารไบแนนซ์’ ได้หรือไม่ แม้จะยังไม่มีแผนการฟื้นคืนตำแหน่งที่ชัดเจนจากฝั่งจ่าว แต่มีความเคลื่อนไหวจากแหล่งข่าวภายในที่ระบุว่า “แผนการบางอย่างอาจกำลังอยู่เบื้องหลัง” ทางด้านแกสปาริโนเองให้ความเห็นว่า “หากได้รับการอภัยโทษจริง โอกาสกลับมาของจ่าวก็ย่อมเกิดขึ้นได้”
การวิเคราะห์ส่วนหนึ่งเชื่อว่า ท่าทีที่เป็นมิตรต่อวงการคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์และสมาชิกพรรครีพับลิกันบางราย อาจมี ‘อิทธิพลโดยตรง’ ต่อผลลัพธ์ของกระบวนการอภัยโทษ โดยก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้กล่าวย้ำว่า ‘คริปโตคือเทคโนโลยีสำคัญ’ ที่สหรัฐควรเร่งควบคุมและเป็นผู้นำ
ประเด็นนี้จึงไม่ได้สะท้อนเพียงอนาคตของชางเผิง จ่าวในฐานะบุคคลเท่านั้น แต่ยังอาจชี้นำ ‘ทิศทางการกำกับดูแลของอุตสาหกรรมคริปโต’ ในสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของนโยบายดิจิทัลก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปในประเทศอีกด้วย
ความคิดเห็น 0