วุฒิสภาสหรัฐฯ กำลังเตรียมออกกฎหมายควบคุมการส่งออก ‘ชิปเอไอ’ อย่างเข้มงวด เพื่อให้สหรัฐฯ ควบคุมการจัดจำหน่ายและให้ความสำคัญกับความต้องการภายในประเทศเป็นอันดับแรก โดยเมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) สภาสูงได้ลงมติผ่านร่างกฎหมาย ‘การเข้าถึงและนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติปี 2026 (GAIN Act)’ และบรรจุเข้าในกฎหมายว่าด้วยการอนุมัติเงินงบประมาณด้านกลาโหม (NDAA) ซึ่งมีผลให้บริษัทผลิตชิปของสหรัฐฯ ต้องจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าในประเทศก่อนการส่งออกต่างประเทศ
สาระสำคัญของกฎหมายนี้คือ การรับประกัน ‘การจัดส่งล่วงหน้าให้กับบริษัทภายในประเทศ’ สำหรับชิปเอไอประสิทธิภาพสูง โดยบริษัทที่ต้องการส่งออกผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะต้องได้รับ ‘ใบอนุญาตการส่งออก’ อย่างเป็นทางการ และให้อำนาจรัฐสภาสหรัฐฯ สามารถพิจารณาอนุมัติหรือปฏิเสธการส่งออกชิปเอไอระดับสูงได้โดยตรง ผลิตภัณฑ์ที่จัดอยู่ในประเภท ‘วงจรรวมขั้นสูง’ จะถูกควบคุมภายใต้กฎหมายนี้ ซึ่งจะครอบคลุมชิปเอไอจำนวนมากในปัจจุบัน
จากรายงานของกลุ่มวิจัย Americans for Responsible Innovation ระบุว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา บริษัทต่างๆ ในสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับ ‘คอขวด’ ในการจัดหาชิปเอไอ โดยล่าสุด ชิปตระกูล Blackwell ของเอนวิเดีย(NVDA) ถูกจองล่วงหน้าเต็มจนถึงสิ้นปี 2024 ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการที่พุ่งสูงภายในประเทศ ขณะที่ความตึงเครียดจากการส่งออกได้นำไปสู่ความกังวลเรื่องขาดแคลน ผู้กำหนดนโยบายในรัฐสภาจึงเดินหน้าผลักดัน GAIN Act เพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานชิปทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในเอเชียและบริษัทด้านคลาวด์และ AI ที่กำลังจับตานโยบายด้านลำดับความสำคัญในการจัดส่งสินค้าใหม่ของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด แต่ในอีกด้านหนึ่ง กฎหมายฉบับนี้กลับยิ่งตอกย้ำความมั่นใจว่าโครงการด้าน AI และกลาโหมภายในประเทศจะไม่ประสบปัญหาขาดแคลนชิปอีกต่อไป
ความร่วมมือระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และรัฐสภาในการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยชี้ให้เห็นว่าสหรัฐฯ ต้องการใช้ AI เป็น ‘โครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคงแห่งชาติ’ และเดินหน้าสร้างอำนาจนำด้านเทคโนโลยีท่ามกลางการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เข้มข้นยิ่งขึ้นในระดับโลก ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงยุทธศาสตร์ที่ให้ความสำคัญกับ ‘ความมั่นคงทางเทคโนโลยี’ มากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา
ความคิดเห็น 0