ตลาดคริปโตเผชิญแรงกดดัน! นักวิเคราะห์เตือนอัลท์คอยน์ส่วนใหญ่อาจไม่รอดในปี 2025

ตลาดคริปโตยังคงอยู่ในช่วงขาลง และมีการคาดการณ์ว่าปี 2025 ตลาดอัลท์คอยน์อาจไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม โครงการที่มีโอกาสได้รับการอนุมัติ ETF และสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่ง อาจสามารถเติบโตเหนือค่าเฉลี่ยของตลาดได้

เมื่อวันที่ 25 คิยองจู ซีอีโอของคริปโตควอนต์(CryptoQuant) แสดงความคิดเห็นผ่าน X (เดิมคือ Twitter) ว่า "ในวัฏจักรของตลาดปี 2025 อัลท์คอยน์ส่วนใหญ่จะไม่สามารถอยู่รอดได้" พร้อมเสริมว่า "ยุคของการเพิ่มขึ้นของราคาที่ไม่มีทิศทางสิ้นสุดลงแล้ว" เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า เฉพาะโครงการที่มีโอกาสได้รับการอนุมัติ ETF หรือสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถดึงดูดความสนใจของนักลงทุนเท่านั้น ที่จะสามารถเติบโตได้ในตลาดนี้

ในขณะเดียวกัน ตลาดคริปโตร่วงลงหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงจุดยืนด้านนโยบายการค้าของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 24 ในการแถลงข่าว ทรัมป์ระบุว่า "สหรัฐฯ จะดำเนินการเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาที่ 25% ตามแผนที่กำหนดไว้" ส่งผลให้บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงต่ำกว่า 91,000 ดอลลาร์ และ ‘ดัชนีความกลัวและความโลภ’ ซึ่งสะท้อนถึงสภาพจิตวิทยาของนักลงทุนในตลาด ลดลงอย่างรวดเร็วสู่ระดับ 25 จุด ซึ่งถือเป็นภาวะ ‘กลัวสุดขีด (Extreme Fear)’ ซึ่งก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งวัน ตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ที่ 49 จุด (สถานะเป็นกลาง)

นอกจากนี้ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) กำลังเร่งหารือเกี่ยวกับกฎระเบียบในอุตสาหกรรมคริปโต ข้อมูลจากเอกสารของ SEC เมื่อวันที่ 24 ระบุว่า กลุ่มทำงานด้านคริปโตที่นำโดยเฮสเตอร์ เพียร์ซ(Hester Peirce) ได้เข้าหารือกับตัวแทนอุตสาหกรรมหลายรายตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีการเสนอให้มีการประเมินอีกครั้งว่าโทเค็นควรถูกจัดให้เป็น ‘หลักทรัพย์’ หรือไม่

ล่าสุด SEC ได้ยกเลิกแผนการตรวจสอบโรบินฮูดคริปโต(Robinhood Crypto) และโอเพนซี(OpenSea) รวมถึงเป็นไปได้ว่าจะระงับการดำเนินคดีกับคอยน์เบส(Coinbase) ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงท่าทีในอนาคต

ปัจจุบัน SEC กำลังพิจารณาทิศทางการกำกับดูแลใหม่ แต่ยังคงรอการอนุมัติประธานคนใหม่จากวุฒิสภาสหรัฐฯ ขณะที่อดีตกรรมาธิการ SEC พอล แอทกินส์(Paul Atkins) กำลังถูกจับตามองในฐานะผู้ที่อาจเข้ารับตำแหน่งดังกล่าว หากเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นทางการ อาจมีความเป็นไปได้ที่ SEC จะดำเนินนโยบายที่เป็นมิตรกับคริปโตมากขึ้น