บิตคอยน์(BTC) ยังคงเดินหน้าทำสถิติใหม่ โดยเมื่อวันที่ 1 (เวลาท้องถิ่น) ราคาทะลุระดับ 111,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 15.42 ล้านบาท) อีกครั้งในช่วงต้นของการซื้อขายของยุโรป ซึ่งสะท้อนถึงความคึกคักในตลาดคริปโตท่ามกลางบรรยากาศเศรษฐกิจโลกที่เริ่มมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกัน ความคาดหวังต่อข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนก็มีส่วนช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้ฟื้นตัว
ปัจจัยหลักของการปรับขึ้นรอบนี้มาจาก *สัญญาณบวกทางมหภาค* โดยเฉพาะกรณีธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจสิ้นสุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลายตัวเริ่มแสดงผลลัพธ์ดีกว่าที่คาด ส่งผลให้แรงซื้อในสินทรัพย์เสี่ยง กลับมาอีกครั้ง และดันให้บิตคอยน์พุ่งทะลุระดับแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 110,000 ดอลลาร์เป็นครั้งใหม่ในปีนี้
นักวิเคราะห์ด้านเทคนิคมองว่าการปรับขึ้นครั้งนี้อาจไม่ใช่เพียงการฟื้นตัวชั่วคราวหลังปรับฐานเท่านั้น แต่เป็น *สัญญาณของแนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่* ที่ชัดเจน โดยมีการพบรูปแบบกราฟแบบ 'ธงกระทิง (Bull Flag)' ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงเทคนิคที่ชี้ว่าสามารถไปต่อได้ โดยราคาอาจพุ่งไปแตะระดับ 186,000 ถึง 192,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 25.85 - 26.68 ล้านบาท) ในระยะสั้น
ในด้านนโยบาย ตลาดยังคงจับตาการแถลงเกี่ยวกับนโยบายการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ขณะนี้อยู่ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งมีการสื่อถึงแนวโน้มในการปรับนโยบายการค้ากับจีน หากแนวทางนี้เปิดกว้างต่อนโยบายที่ *เป็นมิตรต่อคริปโต* ก็อาจสร้างแรงสนับสนุนเชิงบวกให้กับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวม
ในขณะที่ราคาบิตคอยน์ใกล้แตะจุดสูงสุดเดิม ความเคลื่อนไหวของเหรียญหลักอื่น ๆ อย่างอีเธอเรียม(ETH), โซลานา(SOL) และโพลีกอน(MATIC) ก็เริ่มแสดงแนวโน้มขาขึ้นตาม การเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าจะเป็น *จุดเปลี่ยนสำคัญ* ว่าตลาดคริปโตจะเข้าสู่เทรนด์ขาขึ้นรอบใหม่หรือไม่
ความคิดเห็น 0