ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สร้างความสนใจอย่างล้นหลามในวงการคริปโตและการเงินแบบดั้งเดิม ด้วยการประกาศจัดงานสัมมนาภายใต้หัวข้อ ‘นวัตกรรมด้านการชำระเงินด้วยคริปโต’ ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ ซึ่งถูกมองว่าอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของทิศทางการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลในสหรัฐฯ
การประกาศครั้งนี้มาถึงในช่วงที่ *บิตคอยน์(BTC)* มีความเคลื่อนไหวทรงตัวหลังทะลุแนวต้านที่ระดับ 110,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,529,000 บาท) ส่งผลให้นักลงทุนกลับมามีความมั่นใจในตลาดมากขึ้น แม้ภาวะความผันผวนยังดำรงอยู่ ความเคลื่อนไหวของ Fed จึงถูกมองว่าเป็น ‘สัญญาณบวก’ ในสายตาของผู้เล่นในตลาด
แม้ยังไม่มีแถลงการณ์เรื่องหัวข้อย่อยอย่างเป็นทางการ แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าประเด็นหลักจะอยู่ที่ *การกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์*, *การพัฒนาโครงสร้างการชำระเงินด้วยบล็อกเชน* และที่สำคัญคือ *สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC)* หรือที่รู้จักในชื่อ ‘ดอลลาร์ดิจิทัล’ โดยเฉพาะประเด็นการผสานเทคโนโลยีของภาคเอกชนเข้ากับระบบการเงินสาธารณะ ที่อาจกำหนดทิศทางใหม่ของโครงสร้างการเงินในอนาคต
หลายฝ่ายมองว่าสัมมนาครั้งนี้ *ไม่ได้เป็นเพียงเวทีนโยบาย* แต่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างภาคการเงินดั้งเดิมกับระบบนิเวศบล็อกเชน หาก Fed ใช้แนวทางที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นต่อเทคโนโลยีดิจิทัล อาจนำไปสู่การมีส่วนร่วมของนักลงทุนสถาบันมากขึ้น พร้อมกระตุ้นให้บริษัทยักษ์ใหญ่หันมาทดลองระบบบล็อกเชนในเชิงพาณิชย์
แต่อย่างไรก็ดี ยังมีความกังวลว่า หาก Fed ยืนยันแนวทาง *การกำกับดูแลอย่างเข้มงวด* ก็อาจสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาดในระยะสั้น ทั้งนี้นักลงทุนต่างจับตาวิธีการสื่อสารของธนาคารกลาง เนื่องจากอาจส่งผลต่อ ‘แรงผลักดัน’ หรือโมเมนตัมของตลาดคริปโตโดยตรง
ในอีกมุมหนึ่ง หลายเสียงมองว่าสัมมนาครั้งนี้อาจเป็น *จุดเริ่มต้นของการนิยามใหม่เกี่ยวกับบทบาทและสถานะทางกฎหมายของคริปโตโดย Fed* หากมุมมองขององค์กรกลางทางการเงินระดับโลกเปลี่ยนไป นี่อาจกลายเป็นแบบอย่างสำคัญที่ส่งแรงสะเทือนไปยังหน่วยงานกำกับทั่วโลก ที่กำลังหารูปแบบการอยู่ร่วมกันระหว่าง ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ กับระบบการเงินดั้งเดิมอย่างลงตัว
ความคิดเห็น 0