ศาสตราจารย์โอมิด มาเลคาน แห่งวิทยาลัยธุรกิจ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ออกมาเตือนว่า โครงการ Digital Asset Treasury (DAT) หลายราย กำลังถูกใช้เป็น ‘เครื่องมือแสวงหากำไรระยะสั้น’ มากกว่าการพัฒนาอย่างยั่งยืน และกำลังส่งผลเชิงลบต่อมูลค่าตลาดคริปโตในภาพรวม
เมื่อวันที่ 24 ศาสตราจารย์มาเลคานเปิดเผยผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อทวิตเตอร์) ว่าโครงการ DAT ส่วนใหญ่ที่เขาศึกษา ล้วนแต่มีโครงสร้างที่ไม่มั่นคง พร้อมระบุว่า การเปิดตัวแต่ละโครงการมักเต็มไปด้วย *การประกาศอย่างผิวเผิน*, *การใช้คำศัพท์ตามกระแสนิยม*, และ *การปกปิดข้อมูลสำคัญ* ซึ่งทำให้ความน่าเชื่อถือในสายตานักลงทุนลดลงอย่างมาก โดยเขาวิเคราะห์ว่า “แทบทั้งหมดของโครงการเหล่านี้ขาดรากฐานที่มั่นคง และถูกออกแบบมาเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น”
ต้นทุนในการจัดตั้ง DAT ในแต่ละโครงการสูงถึง *หลายล้านดอลลาร์* ซึ่งมักพ่วงด้วยโครงสร้างที่ซับซ้อน เช่น การตั้งบริษัทหน้าเปล่า, การทำข้อตกลง PIPE ผ่านกองทุนปิด และการใช้บริษัทจัดหากิจการเฉพาะกิจ (SPAC) โดยศาสตราจารย์มาเลคานชี้ให้เห็นว่า ค่าธรรมเนียมทางกฎหมายและการเงินที่เกี่ยวข้องนั้นสูงมาก และเงินทุนจากนักลงทุนจำนวนหนึ่งกลับถูกนำไปจ่ายให้ ‘คนกลาง’ มากกว่าที่จะใช้เพื่อพัฒนาโครงการจริงๆ
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ ‘*โครงสร้างผลประโยชน์ทับซ้อน*’ โดยผู้ก่อตั้งหรือบริษัทร่วมลงทุน (VC) มักตั้งตัวเองหรือบริษัทในเครือให้เข้าไปมีบทบาทในโครงการ DAT จนสามารถชักนำเงินทุนไปสู่ธุรกิจของตนเองได้ ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มปริมาณโทเคนในตลาด และ *เร่งแรงกดดันต่อราคาคริปโตในภาพรวม* โดยมาเลคานระบุว่า “โทเคนอัลท์คอยน์จำนวนมากถูกราคาตีต่ำเกินจริง เพราะมีปริมาณมากเกินตลาดต้องการ ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมสูญเสียไปเป็นจำนวนมาก”
ด้านบริษัทจัดการสินทรัพย์ระดับโลกอย่าง *แวนเอค(VanEck)* ก็ได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ *ความยั่งยืนของโมเดล DAT* ในรายงานล่าสุด โดยเฉพาะการที่โมเดลนี้ต้องพึ่งพาความผันผวนของราคาคริปโตเพื่อสร้างกำไร ทั้งนี้ ด้วยการยอมรับของบิตคอยน์(BTC) ที่เพิ่มสูงขึ้น ความผันผวนในตลาดก็ลดลงตาม ซึ่งอาจทำให้แหล่งรายได้หลักของ DAT ไม่สามารถดำเนินการต่อในระยะยาวได้
แวนเอคยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า การลดลงของความผันผวนอาจทำให้ DAT หลายโครงการไม่สามารถเดินหน้าซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติมได้ และผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดอาจไม่สามารถประเมินความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากสภาพคล่องในตลาดออปชันยังมีจำกัด
คำเตือนในครั้งนี้สะท้อนถึงปัญหาการแพร่ขยายของโมเดล DAT ที่ไม่มีการควบคุมชัดเจน ซึ่งกำลังสร้างความบิดเบือนในระบบนิเวศของคริปโต *ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเติบโตสู่ความเป็นตลาดที่มีวุฒิภาวะ* ความโปร่งใสและความยั่งยืนทางโครงสร้างจึงเป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม
ความคิดเห็น 0