ราคาบิตคอยน์(BTC) พุ่งทะลุ 104,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.4 ล้านบาท) ทันทีหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศแผนจ่ายเงินสดให้ประชาชนแบบสายฟ้าแลบ จุดกระแสให้ตลาดคริปโตตอบสนองอย่างรุนแรง โดยนับเป็นครั้งที่สามในสัปดาห์เดียวที่บิตคอยน์ทะลุแนวต้าน 100,000 ดอลลาร์ ซึ่งครั้งนี้เป็นผลมาจาก ‘ถ้อยแถลงทางการเมือง’ ที่ส่งแรงสั่นสะเทือนทันทีต่อตลาด
เมื่อวันที่ 9 ทรัมป์เปิดเผยว่าเขามีแผนแจก ‘เงินปันผลจากภาษีศุลกากร’ อย่างน้อย 2,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 270,000 บาท) ให้กับชาวอเมริกันทั่วไป ยกเว้นกลุ่มคนรวย โดยอ้างว่าเป็นการส่งคืนรายได้จากภาษีศุลกากรที่เขาจัดเก็บเองให้แก่ประชาชนโดยตรง มาตรการดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกับการแจกเงินเยียวยาในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา
หลังการแถลงการณ์ บิตคอยน์พุ่งขึ้นจาก 102,000 ดอลลาร์ในทันที และพุ่งทะยานแตะที่ 104,000 ดอลลาร์ภายในเวลาไม่นาน ขณะเดียวกัน อีเธอเรียม(ETH) ก็ขยับขึ้นกว่า 4% แตะระดับ 3,500 ดอลลาร์ (ราว 472,000 บาท) ส่วนโมเนโร(XMR) เพิ่มขึ้นถึง 19% และซิแคช(ZEC) พุ่งขึ้นถึง 24% โดยทั้งสองเหรียญกระโดดขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 650 ดอลลาร์ (ราว 87,000 บาท)
นักลงทุนมองว่า มาตรการนี้สัญญาเงินสดแบบที่อาจมีผลเหมือนช่วงการระบาดใหญ่ในปี 2020 เมื่อเงินเยียวยานำมาซึ่งการไหลเข้าอย่างรุนแรงสู่ตลาดคริปโต โดยเฉพาะจากนักลงทุนรายย่อย ทำให้เกิดภาวะตลาดกระทิงในระยะเวลาสั้นๆ ‘คราวนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของคริปโตแรลลีอีกครั้งหรือไม่’ เป็นคำถามหลักที่ถูกตั้งอยู่ตามสื่อโซเชียลและคอมมิวนิตี้ต่างๆ
อย่างไรก็ตาม แผนการใช้รายได้จากภาษีศุลกากรมาจ่ายเงินปันผลยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาทางกฎหมาย เนื่องจากมีข้อโต้แย้งจากบรรดานักกฎหมายและบริษัทเอกชนว่าการตั้งภาษีของทรัมป์อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้คำวินิจฉัยของศาลฎีกาสหรัฐจะเป็นตัวกำหนดว่ามาตรการดังกล่าวสามารถดำเนินการได้จริงหรือไม่
‘ความคิดเห็น’ ที่กล่าวได้คือ ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ไม่เพียงกระตุ้นบรรยากาศก่อนการเลือกตั้ง แต่ยังจุดประกายให้ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวรุนแรง ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า *การใช้เงินภาครัฐสามารถเชื่อมโยงโดยตรงกับพฤติกรรมการลงทุนในโลกดิจิทัล* และอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่มีนัยยะในระยะกลางถึงยาวสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิตคอยน์และคริปโตเคอร์เรนซีอื่นๆ
ความคิดเห็น 0