มูลค่าการไหลออกจากกองทุน ETF บิตคอยน์(BTC) ของแบล็คร็อกสูงถึง 570 ล้านดอลลาร์ หรือราว 7,790 ล้านบาท สร้างแรงกดดันให้กับตลาดคริปโต ขณะที่สัญญาณเตือนในตลาด ETF ที่เคยมีแนวโน้มขาขึ้นเริ่มชัดเจนมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ไอแชร์ส บิตคอยน์ ทรัสต์(IBIT) ของแบล็คร็อกมีแนวโน้มเงินทุนไหลออกต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม โดยเฉพาะในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลออกมากที่สุดในรอบ 9 เดือนถึง 570 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการเปิดเผยโดยกี ยองจู ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มวิเคราะห์ออนเชนอย่างคริปโตควอนต์(CryptoQuant) ชี้ให้เห็นถึงสัญญาณการขายทำกำไรจำนวนมากจากนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ตลาดยังมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ โดยบางส่วนมองว่าเป็นเพียงการปรับพอร์ตเพื่อทำกำไร ขณะที่อีกกลุ่มมองว่าเป็นการเคลื่อนย้ายทุนไปยังสินทรัพย์อื่น หรืออาจเป็นโอกาสสะสมของ ‘วาฬ’ รายใหญ่ที่กำลังรอจังหวะซื้อคืน นอกจากนี้ ยังมีความคาดหวังว่า ETF อาจพลิกฟื้นกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง
ในภาพรวมของตลาด ETF เงินทุนไหลออกจากโครงการของแบล็คร็อกมีสัดส่วนค่อนข้างสูง โดยในช่วง 3 วันสุดท้ายของเดือนตุลาคม พบการไหลออกอย่างต่อเนื่องรวมกว่า 1.15 พันล้านดอลลาร์ และในวันที่ 4 พฤศจิกายน อีก 566 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี วันที่ 6 พฤศจิกายน กลับมีเงินไหลเข้ามาที่ 239 ล้านดอลลาร์ ชี้ให้เห็นถึงแรงซื้อกลับบางส่วน
แม้ว่าจะมีการถอนทุนจาก ETF แต่ราคาบิตคอยน์ยังคงเคลื่อนไหวอย่างแข็งแกร่ง โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 106,175 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 3.7% ภายใน 24 ชั่วโมง โดยมีระดับต่ำสุดและสูงสุดที่ 102,767 และ 106,564 ดอลลาร์ตามลำดับ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายพุ่งขึ้นถึง 71.7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้ากว่า 47%
แรงหนุนครั้งนี้มีความเชื่อมโยงกับความคืบหน้าในการคลี่คลายวิกฤตปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ (Government Shutdown) ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนฟื้นตัวขึ้น ขณะเดียวกัน มุมมองเชิงบวกยังได้รับแรงผลักดันจากการที่บริษัทสตราเทจี(MicroStrategy) ซึ่งมีไมเคิล เซย์เลอร์เป็นผู้นำ แสดงท่าทีเตรียมเพิ่มการถือครองบิตคอยน์ โดยปัจจุบันบริษัทถือครองอยู่ที่ 641,205 BTC
ความคิดเห็นในตลาดยังระบุว่า การขายขนาดใหญ่จากแบล็คร็อกอาจเป็นเพียง ‘การปรับฐานระยะสั้น’ และหากราคาบิตคอยน์สามารถปรับตัวขึ้นได้อีก ETF ก็มีโอกาสจะฟื้นตัวตามไปด้วย อย่างไรก็ดี ตลาด ETF ยังคงเปราะบางและมีความอ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อม การติดตามทิศทางการไหลของเงินทุนอย่างใกล้ชิดจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในช่วงเวลานี้
ความคิดเห็น 0