แคโรไลน์ พาห์ม รักษาการประธานคณะกรรมาธิการกำกับการซื้อขายสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าแห่งสหรัฐฯ (CFTC) กำลังหารือร่วมกับตลาดภายใต้การกำกับของสหรัฐฯ เพื่อเตรียมออกผลิตภัณฑ์ซื้อขาย *คริปโตเคอร์เรนซีแบบสปอตที่มีเลเวอเรจ* โดยมีเป้าหมายเปิดตัวเร็วที่สุดภายในเดือนหน้า
เมื่อเร็ว ๆ นี้ พาห์มโพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X (ชื่อเดิม Twitter) ว่า เธอกำลังผลักดันให้สหรัฐฯ อนุญาตการซื้อขาย *คริปโตเคอร์เรนซีแบบสปอตที่มีเลเวอเรจ* โดยกำลังหารืออย่างใกล้ชิดกับแพลตฟอร์มคริปโตที่จดทะเบียนกับ CFTC เพื่อเดินหน้าการออกผลิตภัณฑ์ภายในเดือนหน้าเป็นอย่างช้า
แม้จะอยู่ในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ มีการ ‘ชัตดาวน์’ ทำให้หน่วยงานราชการบางส่วนหยุดทำการ แต่พาห์มยืนยันว่าเธอยังคงสื่อสารกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง พร้อมระบุว่า ขณะนี้ CFTC ก็กำลังพิจารณาวางกรอบแนวทางที่ชัดเจนเกี่ยวกับสินค้าดังกล่าวด้วย
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ต่อเนื่องจากเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่ง CFTC เริ่มผลักดันนโยบายให้อนุญาตการซื้อขาย ‘สัญญาคริปโตแบบสปอต’ และเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถแสดงความเห็นเกี่ยวกับกรอบกฎระเบียบของผลิตภัณฑ์ที่มี ‘มาร์จิ้น’ หรือ ‘เลเวอเรจ’ สำหรับนักลงทุนรายย่อย
ตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐฯ การซื้อขายคริปโตแบบมีเลเวอเรจหรือลักษณะมาร์จิ้นกับนักลงทุนรายย่อย จะถือว่าอยู่ภายใต้การดูแลของ CFTC ก็ต่อเมื่อมีการส่งมอบสินทรัพย์จริงภายใน 28 วัน นับจากวันที่ทำสัญญา หากไม่เป็นไปตามนั้น การทำธุรกรรมอาจถือว่าผิดกฎหมาย และผลิตภัณฑ์ที่พาห์มกำลังหารืออยู่นี้ คาดว่าจะถูกออกแบบให้ ‘เป็นไปตามข้อกำหนด 28 วัน’ อย่างเคร่งครัด
การเดินหน้าผลิตภัณฑ์ซื้อขายชนิดใหม่นี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของสหรัฐฯ ในการสร้าง ‘กฎเกณฑ์ที่ชัดเจน’ สำหรับตลาดสปอตคริปโต โดยเฉพาะภายใต้ระบบเดิมที่เน้นผลิตภัณฑ์ประเภทอนุพันธ์ การที่ตลาดสปอตคริปโตจะมี *ทางเลือกการลงทุนที่ยืดหยุ่นมากขึ้น* นับเป็นสัญญาณของการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญ
ด้านสถานการณ์ในสหรัฐฯ ขณะนี้ แม้จะเกิดภาวะชัตดาวน์มาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม แต่มีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะกลับมาดำเนินงานได้จากการเจรจาเรื่องงบประมาณฉบับชั่วคราวในวุฒิสภา อย่างไรก็ดี *ประเด็นการกำกับดูแลคริปโตเคอร์เรนซีก็ยังคงเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง* แสดงให้เห็นถึง ‘ความจริงจัง’ ของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการวางโครงสร้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในระยะยาวอย่างมั่นคง
*ความคิดเห็น*: หากผลิตภัณฑ์นี้ถูกนำมาใช้จริง อาจถือเป็นจุดเปลี่ยนของตลาดคริปโตในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในด้านการลงทุนที่ผู้เล่นรายย่อยจะมีอิสระและทางเลือกมากขึ้นภายใต้กรอบกฎหมายที่ชัดเจนและปลอดภัย
ความคิดเห็น 0