บรรยากาศเชิงลบในตลาดคริปโตยังคงกดดันต่อเนื่อง ส่งผลให้สินทรัพย์ลงทุนที่เกี่ยวข้องเผชิญกับการถอนเงินทุนจำนวนมากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันที่เกิดการไหลออกของเงินทุน สะท้อนแรงเทขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อวันที่ 24 ตามรายงานของ CoinShares บริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล รวบรวมข้อมูลว่ากองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโต (ETP) ทั่วโลกมีเงินทุนไหลออกสุทธิรวมมากถึง 1,170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.52 หมื่นล้านบาท) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเกือบ *70%* เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่มีการไหลออก 360 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,680 ล้านบาท)
เจมส์ บัตเตอร์ฟิลด์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ CoinShares ให้ความเห็นว่าการถอนเงินครั้งใหญ่นี้มีสาเหตุมาจากตลาดที่เปราะบางหลังเกิด ‘*ฟลัชแครช*’ เมื่อวันที่ 10 ประกอบกับความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐภายในปีนี้ เขาเสริมว่าแม้ปริมาณการซื้อขายของ ETP จะอยู่ในระดับสูงที่ 43,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.5 ล้านล้านบาท) ต่อสัปดาห์ แต่ก็สะท้อนแรงขายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากความกังวลเกี่ยวกับการ ‘*ชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐ*’ คลี่คลายช่วงวันพฤหัสบดีก่อนหน้านี้
ในแง่ของสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบ ‘บิตคอยน์(BTC)’ ยังคงเป็นเป้าหมายหลักของแรงเทขาย โดยมีเงินหลั่งไหลออกถึง 932 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.21 หมื่นล้านบาท) แม้จะลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 946 ล้านดอลลาร์ เช่นเดียวกับ ‘อีเธอเรียม(ETH)’ ที่เปลี่ยนจากการมีเงินไหลเข้า 57 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ก่อนหน้ากลายเป็นไหลออก 438 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,690 ล้านบาท) ในสัปดาห์ล่าสุด
ตลาดคริปโตในขณะนี้ตอบสนองต่อปัจจัยนโยบายดอกเบี้ยและเศรษฐกิจมหภาคอย่างชัดเจน โดยเฉพาะภาวะการปรับฐานทางเทคนิคที่เพิ่มแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สภาพจิตใจของนักลงทุนแผ่วลง และทำให้น้ำหนักของการเคลื่อนไหวของสถาบันการเงินยิ่งส่งผลต่อตลาดมากขึ้น *ความคิดเห็น* ของผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ตราบใดที่ทิศทางนโยบายดอกเบี้ยของสหรัฐยัง ‘ไม่ชัดเจน’ และความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศยังคงอยู่ การลงทุนในผลิตภัณฑ์คริปโตก็มีแนวโน้มถูกประเมินอย่างระมัดระวังต่อไปในระยะสั้น
ความคิดเห็น 0