โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าแบบดิจิทัลที่ครอบคลุมทั่วทวีปแอฟริกาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับ *ประสิทธิภาพของการชำระเงินข้ามพรมแดน* และสร้าง *โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแบบบูรณาการ* สำหรับภูมิภาค
มูลนิธิไอโอตา(IOTA) ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ได้ร่วมมือกับเวทีเศรษฐกิจโลก(WEF), สถาบันโทนี แบลร์ และสำนักงานเขตการค้าเสรีทวีปแอฟริกา(AfCFTA) เพื่อสร้างเครือข่ายโอเพนซอร์สในชื่อ ‘ADAPT’ แพลตฟอร์มนี้จะรองรับการใช้ทั้ง *สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง(CBDC)* และ *สเตเบิลคอยน์* ในการชำระเงินระหว่างประเทศ และยังสามารถจัดเก็บและบริหารเอกสารทางการค้าแบบดิจิทัล รวมถึงข้อมูลระบุตัวตนบนเครือข่ายได้ด้วย
โดมินิก เชนเนอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานมูลนิธิไอโอตา ระบุว่าแพลตฟอร์ม ADAPT มีกำหนดใช้จริงใน *ทั้ง 55 ประเทศของแอฟริกา ภายในปี 2035* พร้อมเสริมว่า “ADAPT จะมอบประสิทธิภาพที่แท้จริงผ่านการลดขั้นตอนด้าน *การค้าดิจิทัลและการบริหารจัดการ*” แพลตฟอร์มดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มปริมาณการค้าต่อปีมากถึง *70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* หรือราว 94 ล้านล้านวอน พร้อมลดระยะเวลาพิธีการศุลกากรจาก 14 วันเหลือต่ำกว่า 3 วัน และลดค่าธรรมเนียมโอนเงินข้ามพรมแดนจากระดับเดิมที่ 6–9% ให้เหลือในระดับที่ต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ
การร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการปูทางสำหรับ ‘*โครงข่ายดิจิทัลสาธารณะ*’ ของแอฟริกา โดยมีการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลสาธารณะในระบบที่เชื่อมต่อกับเศรษฐกิจจริง ทั้งด้าน *การค้าและโลจิสติกส์* ซึ่งสามารถช่วยปลดล็อกปัญหาการค้าข้ามพรมแดนที่หยุดชะงักอยู่ในปัจจุบันได้
แอฟริกาถือเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีความต้องการสูงด้าน *การเงินดิจิทัล* และ ADAPT ก็ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่โดดเด่น เพราะแตกต่างจากโปรเจกต์คริปโตอื่น ๆ ตรงที่ *มุ่งเน้นเป้าหมายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการค้า* อย่างเห็นได้ชัด ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การนำเทคโนโลยีเช่นนี้ไปปรับใช้กับระบบสาธารณะ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ยังขาดโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล อาจสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับภูมิภาคได้อย่างแท้จริง
ความคิดเห็น 0