โนดิส(Nodit) บริษัทโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนที่ได้รับการสนับสนุนจากแลมด้า256 (Lambda256) ได้เปิดตัวบริการตรวจสอบบล็อกเชนแบบไม่เก็บสินทรัพย์ ‘Validator-as-a-Service (VaaS)’ อย่างเป็นทางการ พร้อมมุ่งเจาะตลาดองค์กรด้วยการยกระดับด้านความปลอดภัย ความโปร่งใส และความสอดคล้องกับกฎระเบียบ
บริการ VaaS ของโนดิสออกแบบให้ลูกค้าเป็นผู้ถือครองข้อมูลสำคัญทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์หรือคีย์ส่วนตัว โดยโนดิสรับหน้าที่เฉพาะการจัดการและดำเนินงานด้านโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น ช่วยให้ลูกค้าลดความเสี่ยงจากการถูกยึดครองสินทรัพย์ พร้อมยังสามารถควบคุมการดำเนินงานของโหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โนดิสได้สะสมประสบการณ์ในการให้บริการตัวตรวจสอบบล็อกเชนบนเครือข่ายสำคัญอย่าง อีเธอเรียม(ETH) และโซลานา(SOL) ซึ่งถูกนำมาต่อยอดสู่บริการ VaaS ที่พึ่งเปิดตัว โดยระบบรองรับการติดตั้งแบบเทิร์นคีย์ (Turnkey Deployment) มีฟีเจอร์ตรวจสอบอัตโนมัติและการปรับจูนประสิทธิภาพ รวมถึงปฏิบัติตามกระบวนการควบคุมภายในตามมาตรฐาน SOC 2 และกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการขอการรับรอง SOC 2 Type II อีกด้วย
ข้อมูลการดำเนินการทั้งหมดสามารถแสดงผ่านแดชบอร์ดแบบเรียลไทม์ ส่งผลให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญการตรวจสอบและข้อกำหนดทางกฎหมายอย่างเข้มงวด “ลูกค้าต้องสามารถควบคุมบริการได้โดยไม่ละทิ้งการปฏิบัติตามกฎระเบียบ บริการประเภทนี้ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นโซลูชันสำหรับองค์กรอย่างแท้จริง” เจอา คิม หัวหน้าฝ่ายธุรกิจของโนดิส กล่าว
ปัจจุบัน โนดิสให้บริการโครงสร้างพื้นฐานแก่ทั้งแพลตฟอร์มซื้อขายที่สำคัญในเกาหลีใต้ เช่น Upbit และ Coinone รวมถึงผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอื่น ๆ และยังดำเนินกิจกรรมบนเครือข่ายประเภท Proof-of-Stake อย่าง แอบโทส(Aptos) และ ซอมนีอา(Somnia) ในฐานะตัวตรวจสอบโดยตรง
ล่าสุด โนดิสมีแผนเข้าร่วมงาน ETHGlobal Pragma ที่จัดขึ้นในช่วง Devconnect กรุงบัวโนสไอเรส ในฐานะสปอนเซอร์อย่างเป็นทางการ โดยหวังจะนำโซลูชันของตนไปแสดงให้เห็นถึงวิธีการสร้าง Web3 ที่เป็นมิตรต่อกฎระเบียบในระดับโลก
โนดิสตั้งเป้าว่าบริการ VaaS นี้จะเป็นกลไกเร่งให้ภาคธุรกิจเข้าสู่เครือข่ายบล็อกเชนมากขึ้น และเป็นรากฐานสำคัญของการผลักดันการนำเทคโนโลยี Web3 ไปสู่มวลชน ด้วยโครงสร้างแบบไม่เก็บสินทรัพย์ที่เน้น ‘ความน่าเชื่อถือ’ และ ‘การตอบสนองต่อข้อกำหนดขององค์กร’ เป็นหลัก
ความคิดเห็น 0