ราคาบิตคอยน์(BTC)ที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อไม่นานมานี้ ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐหรือฟองสบู่จากปัญญาประดิษฐ์(AI) ตามที่นักวิเคราะห์หลายรายชี้แจง
แม้การดำเนินงานของรัฐบาลสหรัฐจะกลับมาเป็นปกติหลังการปิดทำการชั่วคราว แต่ราคาบิตคอยน์ก็ยังคงร่วงลงจนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ซึ่งกระตุ้นให้เกิดกระแสความกังวลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจโดยรวม และมีความเห็นบางส่วนที่โยงเรื่องนี้เข้ากับแรงกระเพื่อมจากภาคเทคโนโลยี โดยเฉพาะการเติบโตของหุ้นด้าน AI ที่หลายคนมองว่าเป็น ‘ฟองสบู่’ และอาจส่งผลต่อสินทรัพย์ดิจิทัล
วิคตอเรีย สกอลลา หัวหน้าฝ่ายการลงทุนจาก Interactive Investor ให้สัมภาษณ์ล่าสุดว่า "ความกังวลเกี่ยวกับฟองสบู่ AI และการพึ่งพาหุ้นเทคขนาดใหญ่ในตลาด อาจทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงอย่างบิตคอยน์" ซึ่งสะท้อนความกังวลของสถาบันต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ออนเชนบางรายกลับแย้งแนวคิดนี้ โดยให้เหตุผลว่า สาเหตุหลักของการร่วงลงครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัจจัยภายนอกโดยตรง แรชันนัล รูต นักวิเคราะห์ออนเชน ได้กล่าวในบทสัมภาษณ์บน YouTube ว่า "มันไม่ง่ายนักที่จะสรุปว่าการร่วงลงของบิตคอยน์เกิดจากเรื่องของ shutdown" พร้อมเสริมว่า "ปัญหาอยู่ที่ตลาดฟิวเจอร์สของบิตคอยน์ซึ่งมีระดับเลเวอเรจสูงเกินไป"
ทางด้านนักวิเคราะห์คริปโตชื่อดังอย่าง PlanB ก็ออกมาโต้แย้งความคิดที่ว่า ความกังวลต่อ AI ส่งผลต่อราคาบิตคอยน์ โดยระบุว่า "ไม่เห็นด้วยที่ความวิตกต่อฟองสบู่ AI จะมีผลกระทบรุนแรงต่อบิตคอยน์ถึงขั้นนี้"
จากแนวโน้มตลาดในตอนนี้ มีการชี้ชัดว่าการปรับฐานของบิตคอยน์ครั้งนี้อาจเกิดจากโครงสร้างภายในตลาดเอง โดยเฉพาะปริมาณ ‘เลเวอเรจในสัญญาฟิวเจอร์ส’ ที่สูงเกินจริง ซึ่งนำไปสู่แรงเทขายแบบลุกลาม ความผันผวนในตลาดน่าจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปอีกสักระยะ และ *นักลงทุนระยะสั้นจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ* ตาม *ความคิดเห็น* ของผู้เชี่ยวชาญหลายราย.
ความคิดเห็น 0