Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ไมเคิล เซย์เลอร์ยืนยันถือบิตคอยน์(BTC)ไม่หวั่นผันผวน เตรียมซื้อเพิ่มชุดใหญ่ต้นสัปดาห์หน้า

ไมเคิล เซย์เลอร์ยืนยันถือบิตคอยน์(BTC)ไม่หวั่นผันผวน เตรียมซื้อเพิ่มชุดใหญ่ต้นสัปดาห์หน้า / Tokenpost

ไมเคิล เซย์เลอร์ยังคงแสดงความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ต่อ *บิตคอยน์(BTC)* โดยมองว่าความผันผวนในระยะสั้นไม่ใช่ปัจจัยที่ควรนำมาชี้นำการตัดสินใจลงทุน ตามบทวิเคราะห์ล่าสุดจาก CoinEasy เมื่อวันที่ 24 การสัมภาษณ์ของเขาระบุอย่างชัดว่า *บิตคอยน์* เป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนระยะยาวสูง โดยให้ข้อมูลว่าผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีของ *บิตคอยน์* มากกว่า 50% ซึ่งสูงกว่า *ทองคำ* และดัชนี S&P500 ที่อยู่ที่ประมาณ 14% อย่างมีนัยสำคัญ

แม้ราคาของ *บิตคอยน์* จะมีการปรับฐานในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เซย์เลอร์ยังคงเดินหน้าซื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดย CoinEasy รายงานว่า มายโครสเตรทจี(MicroStrategy) ซึ่งเป็นบริษัทของเขา ถือครอง *บิตคอยน์* คิดเป็นประมาณ 3.1% ของปริมาณทั้งหมดในตลาด โดยมีต้นทุนเฉลี่ยที่ประมาณ 74,000 ดอลลาร์สหรัฐ เขายืนยันว่า “ยังคงซื้ออย่างต่อเนื่อง และเร็วขึ้นกว่าเดิม” และกำลังจะประกาศ *การซื้อเพิ่มเติมชุดใหญ่* ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า

ในแง่โครงสร้างทางการเงินของ มายโครสเตรทจี ที่ตลาดแสดงความกังวล เซย์เลอร์ชี้ว่า บริษัทมี *อัตราเลเวอเรจเพียง 1.15 เท่า* ระยะเวลาชำระหนี้เกิน 4 ปี และถึงแม้ราคาของ *บิตคอยน์* จะปรับลดลงรุนแรงถึง 80% มูลค่าหลักทรัพย์ค้ำประกันก็ยังคงสูงอยู่เหนือระดับความเสี่ยง เขายังย้ำว่าบริษัทใช้โครงสร้างที่อิงกับหุ้นบุริมสิทธิ์ (preferred stock) เพื่อลดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ พร้อมระบุว่านี่คือ “การบริหารธุรกิจในแบบที่ชาญฉลาด”

ต่อคำถามว่า *สเตเบิลคอยน์* จะเข้ามาแย่งความสำคัญจาก *บิตคอยน์* ได้หรือไม่ โดยเฉพาะหลังจากที่ แคธี วูด(Cathie Wood) ปรับลดเป้าราคา *บิตคอยน์* ลงจาก 1.5 ล้านดอลลาร์ เหลือ 1.2 ล้านดอลลาร์ ตามการเติบโตของ *สเตเบิลคอยน์* เซย์เลอร์มองว่า *ทั้งสองเป็นสิ่งที่เสริมกัน* ไม่ใช่คู่แข่ง เขานิยาม *บิตคอยน์* ว่าเป็น “ทุนดิจิทัล” ในขณะที่ อีเธอเรียม(ETH), โซลานา(SOL) และโครงการอื่นๆ เป็น “โครงสร้างพื้นฐานของการเงินดิจิทัล” ซึ่งสามารถทำงานร่วมกันได้ ผ่านผลิตภัณฑ์อย่าง Stretch(STRC) ที่สร้างรายได้จาก *บิตคอยน์*

บทวิเคราะห์จาก CoinEasy ยังสรุปแนวทางลงทุนที่เซย์เลอร์แนะนำในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ว่าแบ่งตามระยะเวลาการลงทุน ได้แก่ ผู้ที่ถือยาวกว่า 4 ปีควรเลือก *บิตคอยน์*, นักลงทุนที่ต้องการโอกาสจากเลเวอเรจควรพิจารณาหุ้นมายโครสเตรทจี(MSTR), ขณะที่ผู้ที่มองการลงทุนระยะกลาง 12 สัปดาห์ถึง 1 ปี อาจเลือกผลิตภัณฑ์สินเชื่อดิจิทัล กลยุทธ์นี้ถูกสรุปไว้ชัดเจนว่า “ถือยาว = *บิตคอยน์*, กลาง = MSTR, สั้น = สินเชื่อดิจิทัล”

แม้ราคาของ *บิตคอยน์* จะยังคงยืนพื้นอยู่ที่ราวๆ 94,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่เซย์เลอร์ไม่ได้เปิดเผยเป้าราคาสิ้นปี อย่างไรก็ดี เขาย้ำว่า “*บิตคอยน์* จะชนะทั้งทองคำและ S&P500 เพราะมันคือ *ทุนดิจิทัล*” สะท้อนมุมมองระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญ

ในท้ายที่สุด บทวิเคราะห์ของ CoinEasy ได้สรุปแนวคิดการลงทุนของเซย์เลอร์ไว้สั้นๆ แต่ชัดเจนว่า “*บิตคอยน์จะขึ้นไปในที่สุด ที่เหลือทั้งหมดเป็นเพียงเสียงรบกวน*” แสดงให้เห็นถึงจุดยืนที่มั่นคงในท่ามกลางความผันผวนของตลาด

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1