โอเอซิส(Oasys) บล็อกเชนที่เน้นด้านเกม กลายเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นหลักในตลาด ‘โทเคนสินทรัพย์จริง (RWA)’ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ตามรายงานล่าสุดของ Alea Research เมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา โอเอซิสสามารถผสมผสานระหว่างความเข้ากันได้กับอีเธอเรียมเวอร์ชวลแมชชีน(EVM) และโครงสร้างเลเยอร์ 2 (Layer-2) แบบเฉพาะตัว สร้างระบบที่ยืดหยุ่นพอสำหรับเครือข่ายแบบกระจายศูนย์ และยังตอบโจทย์ความต้องการควบคุมของภาคธุรกิจได้อย่างสมดุล
โอเอซิสดำเนินงานด้วยโครงสร้าง ‘เลเยอร์ฮับ (L1)’ ซึ่งจัดการความพร้อมของข้อมูลและกระบวนการรับรองความถูกต้อง ขณะที่ ‘เลเยอร์บัส (L2)’ ทำหน้าที่เป็นสภาพแวดล้อมในการประมวลผลสำหรับเกมและธุรกรรมสินทรัพย์จริง โดยเลเยอร์ฮับใช้ระบบเดเลเกเต็ดพรูฟออฟสเตค(DPoS) แบบกึ่งอนุญาต บล็อกถูกสร้างทุกๆ 6 วินาที และสามารถยืนยันธุรกรรมได้ในเวลาประมาณ 30 วินาที
เลเยอร์บัสของโอเอซิสถูกออกแบบให้ทำงานอย่างอิสระ และสามารถปรับแต่งให้รองรับเกมหรืออุตสาหกรรมเฉพาะทางหนึ่งได้โดยตรง ความยืดหยุ่นระดับสูงและความเข้ากันได้กับ EVM เหล่านี้ ทำให้โอเอซิสได้ไปไกลเกินกว่าแค่การใช้งานในวงการเกมเท่านั้น แต่ยัง ‘เหมาะสมสำหรับการนำมาใช้กับบริการทางธุรกิจของภาคสถาบัน’ อีกด้วย *ความคิดเห็น: นี่คือจุดแข็งที่เหนือกว่าบล็อกเชนสาธารณะทั่วไป*
Alea Research ระบุว่า สำหรับสถาบันการเงิน ความล่าช้า ความไม่ชัดเจนด้านกฎระเบียบ และการขาดความสามารถด้านการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล เป็นอุปสรรคหลักในการนำบล็อกเชนมาใช้ อย่างไรก็ตาม โครงสร้างเลเยอร์ 2 ของโอเอซิส พร้อมด้วยระบบการอนุญาตที่ดำเนินการโดย “นักพัฒนาบัส” กลับกลายเป็นโครงสร้างที่ “ใช้งานได้จริง”
บริษัทใหญ่ๆ อย่าง *บันได นัมโ코*, *เซก้า*, *ยูบิซอฟต์* และ *สแควร์ เอนิกซ์* ต่างมีบทบาทในฐานะผู้รับรอง (Validator) ขณะเดียวกัน บริษัทอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่น *เกตส์(Gates Inc.)* ได้นำอสังหาริมทรัพย์ในโตเกียวมูลค่า 75 ล้านดอลลาร์ มาทำการโทเคนบนโอเอซิสเรียบร้อยแล้ว
โอเอซิสยังเปิดตัว ‘โอเอซิส พาสปอร์ต (Oasys Passport)’ ซึ่งเป็นปลั๊กอินที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันได้โดยไม่ต้องตั้งค่ากระเป๋าสตางค์หรือจ่ายก๊าซ (Gas Fee) เอง โดยค่าธรรมเนียมเหล่านี้ได้รับการชำระจากผู้พัฒนาบัส และการอนุมัติธุรกรรมเกิดขึ้นภายใน 1 วินาที ทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปหรือเกมเมอร์สามารถเริ่มใช้งานได้ทันทีไม่ว่าจะเป็น DeFi หรือ DeContent โดยไม่ต้องผ่านความยุ่งยาก
ในเชิงเทคนิค โอเอซิสพัฒนา "ระบบผู้ตรวจสอบงานทันที (Instant Verifier)" ที่ต่อยอดจากแนวคิด Optimistic Rollup โดยไม่ต้องรอระยะเวลาคัดค้าน 7 วันเหมือนระบบทั่วไป ผู้ตรวจสอบที่มีสิทธิ์ต้องสเตกอย่างน้อย 10 ล้านโทเคน $OAS และยังมีมาตรการตรวจสอบพฤติกรรมไม่เหมาะสม พร้อมระบบโทษ (Slashing) เพิ่มความปลอดภัยแบบออนเชนในระดับสูง
ทางด้านเศรษฐกิจ $OAS คือโทเคนหลักในระบบที่ถูกใช้สำหรับการชำระเงิน การสเตก การลงคะแนนเสียง และใช้เป็นเงินประกันในการสร้างบัส ส่วน $pOAS ซึ่งเป็นโทเคนเพื่อใช้มอบรางวัลแก่ผู้เล่นและสามารถแลกเปลี่ยนเป็น $OAS ได้ที่อัตราคงที่ (1:1) ช่วยเสริมสภาพคล่องและสร้างแรงจูงใจให้ระบบมีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ระบบล็อกโทเคนและระบบสเตกยังช่วยควบคุมอุปทาน ส่งผลให้ราคามีความเสถียรในระยะยาว
ในรายงานเดียวกัน Alea Research ยังเปิดเผยว่ามีสถาบันการเงินรายใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง *SBI โฮลดิงส์* และนักลงทุนระดับโลกจำนวนหนึ่งเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับโอเอซิสแล้ว ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงช่วยผลักดันอัตราการยอมรับแพลตฟอร์มในตลาด RWA ของเอเชีย
เป้าหมายต่อไปของโอเอซิสคือการขยายการใช้งานสู่สินทรัพย์จริงรูปแบบอื่นๆ เช่น ความบันเทิง, การท่องเที่ยว, สุขภาพ และทรัพย์สินทางปัญญา โดยได้รับแรงหนุนจากความชัดเจนด้านกฎระเบียบในประเทศอย่าง *ฮ่องกง*, *สิงคโปร์* และ *ญี่ปุ่น* ความชัดเจนเหล่านี้เปิดทางให้โอเอซิสกลายเป็น ‘โครงสร้างพื้นฐาน’ สำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคเอเชีย
รายงานของ Alea Research สรุปว่า โอเอซิสไม่เพียงแต่เป็นบล็อกเชนสำหรับเกม แต่กำลังกลายเป็น *ศูนย์กลางโครงสร้างพื้นฐาน* สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการโทเคนแบบปลอดภัยและใช้งานได้จริงในภาคเศรษฐกิจจริง การเปลี่ยนผ่านจากเกมสู่เศรษฐกิจที่จับต้องได้ อาจทำให้โอเอซิสกลายเป็นแกนหลักของเศรษฐกิจดิจิทัลเอเชียในอนาคต
ความคิดเห็น 0