โปรเจกต์ไซเฟอร์(Cypher) ซึ่งเป็นฟินเทคบนพื้นฐานของคริปโตเคอร์เรนซี ได้รับการประเมินว่ามีโอกาสเติบโตเชิงสมมาตรอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาสสุดท้ายของปี 2025 ตามรายงานของ Alea Research เมื่อวันที่ 24 ระบุว่า ความไม่สอดคล้องกันระหว่างแนวคิดของนีโอแบงก์กับปริมาณการใช้งานจริงในการชำระเงิน อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ตลาดประเมินมูลค่าของไซเฟอร์ต่ำกว่าความเป็นจริง โดยเน้นให้จับตามองที่ ‘ศักยภาพในการเติบโต’ และ ‘มูลค่าโทเคนที่ยังไม่ได้รับการสะท้อน’
ไซเฟอร์ให้บริการที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้สเตเบิลคอยน์ในชีวิตประจำวันได้ทันที ผ่านกระเป๋าเงินแบบมัลติเชนและบัตรวีซ่า(Visa) โดยโทเคน CYPR จะถูกแจกเป็นรางวัลเมื่อมีการใช้จ่ายผ่านบัตร ซึ่งไม่ใช่แค่ระบบแคชแบ็กดิจิทัลทั่วไป แต่ยังมีเป้าหมายในการปฏิวัติอุตสาหกรรมคะแนนสะสมแบบดั้งเดิม ปัจจุบัน CYPR มีปริมาณการใช้งานเป็นอันดับ 2 ของตลาดคริปโตในกลุ่มบัตรจ่ายเงิน รองจากอีเธอร์ไฟ(EtherFi) แม้จะมีการใช้งานสูง แต่ Alea Research ชี้ว่า มูลค่าตลาดของไซเฟอร์ยังต่ำเมื่อเทียบกับโปรเจกต์ที่มีการใช้งานใกล้เคียงกัน
CYPR มีมูลค่าตลาดปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 10–20 ล้านดอลลาร์ ซึ่งยังห่างไกลจากโทเคนคู่แข่งที่มีมูลค่าระดับ 100 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป Alea Research อธิบายว่า ความไม่สมดุลเช่นนี้เกิดจาก ‘การเข้าถึงที่จำกัดในตลาดกลาง’, ‘สภาพคล่องต่ำ’ และ ‘ต้นทุนโอกาสที่สูง’ แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างโอกาสมหาศาลหากเกิดการ ‘รีเรทติ้ง’ ขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อไซเฟอร์ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่อย่าง CoinBase Ventures, Y Combinator และแบลาจี ศรีนิวาซาน(Balaji Srinivasan) อดีต CTO ของ CoinBase ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ในการนำ CYPR เข้าสู่ตลาดซื้อขายหลัก
นอกจากนี้ ไซเฟอร์ยังมีโมเดลใช้โทเคน veCYPR ซึ่งผู้ถือมีสิทธิ์โหวตเลือกผู้ค้าที่จะได้รับรางวัล ในขณะที่ร้านค้าสามารถให้ ‘สินบนทางบวก (bribe)’ เพื่อแย่งชิงคะแนนเสียง โทเคน CYPR มีจำนวนจำกัดอยู่ที่ 1 พันล้านเหรียญ โดย 35% จะถูกใช้เป็นรางวัลบนโปรโตคอล และจะถูกปล่อยออกสู่ตลาดตามกำหนดการที่ยาวนาน 20 ปี ซึ่งโครงสร้างนี้ช่วยลด ‘แรงกดดันจากการลดทอนราคาในระยะสั้น’ อย่างมีประสิทธิภาพ
ในตลาดนีโอแบงก์ ปัจจุบันยังมีไม่กี่โปรเจกต์ที่มีการใช้โทเคนจริง และส่วนใหญ่มีมูลค่าที่สูงจนไม่เหมาะแก่การลงทุนในช่วงเริ่มต้น ความจริงที่ว่าไซเฟอร์มีอุปทานหมุนเวียนต่ำและสภาพคล่องจำกัด กลับอาจเป็น “ข้อได้เปรียบสำหรับผู้ลงทุนระยะเริ่มต้น” ที่มองหาผลตอบแทนแบบเบต้าในช่วงต้น นอกจากนี้ ปัจจัยสนับสนุนอย่าง ‘ตลาดรีวอร์ดที่ไร้ประสิทธิภาพ’, ‘ความเป็นไปได้ในการใช้จ่ายมากขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาส’ และ ‘การประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์’ ก็ยิ่งเพิ่มแรงหนุนให้กับโอกาสของไซเฟอร์
Alea Research ยังตั้งข้อสังเกตว่า แนวคิดนีโอแบงก์ยังคงเป็นธีมที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในระดับ ‘มายด์แชร์’ โดยการผสมผสานระหว่าง ‘การใช้งานจริง’ และ ‘การประเมินมูลค่าต่ำ’ กลายเป็นโอกาสที่หาได้ยากในตลาด รายงานชี้ว่าการเข้าไปลงทุนแบบค่อยเป็นค่อยไป และจำกัดความเสี่ยง อาจเป็นวิธีที่เหมาะสมในการจับจังหวะขาขึ้นของ CYPR ในระยะกลางถึงยาว
ท้ายที่สุด จุดเด่นที่สำคัญของโปรเจกต์นี้คือ CYPR ไม่ใช่แค่บัตรคริปโตธรรมดา แต่คือ ‘สนามทดสอบ’ ที่แสดงให้เห็นว่า คริปโตเคอร์เรนซีสามารถพลิกโฉมอุตสาหกรรมฟินเทคได้มากเพียงใด จาก ‘ระบบให้รางวัล’, ‘โครงสร้างดีไฟน์’, ‘มูลค่าเริ่มต้นที่ต่ำ’ และ ‘การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน’ — ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าไซเฟอร์พร้อมที่จะดึงดูดทั้งนักลงทุนกระแสหลักและผู้ใช้งานทั่วไปอย่างเต็มที่
ความคิดเห็น 0