แม้ว่าเงินทุนจำนวนมหาศาลจะไหลออกจากกองทุนรวมซื้อขายในตลาด (ETF) ของบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) แต่โซลานา(SOL) กลับได้รับกระแสเงินทุนไหลเข้าใหม่กว่า 369 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5,412 ล้านบาท) ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน ซึ่งสร้างความสนใจให้กับตลาดลงทุนอย่างเห็นได้ชัด นักลงทุนจำนวนมากเริ่มมองโซลานาเป็น ‘สินทรัพย์ที่สามารถสร้างรายได้’ ได้อย่างแท้จริง
โบแดน โอเฟรียชโค ผู้ร่วมก่อตั้งเอเวอร์สเตค (Everstake) ซึ่งดำเนินการโหนดตรวจสอบธุรกรรมของบล็อกเชนโซลานา เปิดเผยกับ Cointelegraph ว่าทั้งนักลงทุนรายใหญ่และรายย่อยเริ่มมองโซลานาในมุมของสินทรัพย์เพื่อสร้างรายได้ มากกว่าจะใช้เพียงซื้อขายเพื่อเก็งกำไร เขาชี้ว่าอัตราผลตอบแทนจากการสเตกโซลานาที่อยู่ระหว่าง ‘5-7% ต่อปี’ ถือว่าเหนือกว่าผลตอบแทนจากผลิตภัณฑ์บางประเภทของอีเธอเรียม และก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับ ETF ของบิตคอยน์ได้เลย
จากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลสินทรัพย์ดิจิทัล โซโซแวลู (SoSoValue) ระบุว่าในช่วงระหว่างวันที่ 3 – 24 พฤศจิกายน ETFs ของบิตคอยน์พบการไหลออกสุทธิกว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์ (ราว 54,000 ล้านบาท) ขณะที่ ETFs ของอีเธอเรียมมีการไหลออกที่ 1.64 พันล้านดอลลาร์ (มากกว่า 24,000 ล้านบาท) ในทางกลับกัน ผลิตภัณฑ์ที่อิงกับโซลานากลับมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิถึง 369 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน
โอเฟรียชโคมองว่านี่ไม่ใช่แค่การเคลื่อนย้ายเงินทุนระยะสั้น แต่เป็น ‘กระแสนิยม’ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ที่สามารถ ‘สร้างรายได้’ อย่างต่อเนื่อง
ในปัจจุบัน โซลานากำลังได้รับการยอมรับในฐานะทางเลือกลงทุนใหม่ที่ไม่ขึ้นอยู่กับแนวโน้มของบิตคอยน์หรืออีเธอเรียม โดยเฉพาะในหมู่นักลงทุนที่ต้องการแหล่ง ‘รายได้แบบ Passive’ ผ่านกลไก ‘สเตก’ ที่สามารถสร้างผลตอบแทนโดยไม่ต้องซื้อขายบ่อยครั้ง ซึ่ง ‘ความคิดเห็น’ หลายด้านมองว่าจุดแข็งด้านโครงสร้างรางวัลของโซลานาจะช่วยให้มันโดดเด่นในระยะยาว
ในสภาพแวดล้อมที่ตลาดกำลังมองหาผลตอบแทนที่มั่นคง โซลานาจึงกลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่น่าจับตามองอย่างมากในตอนนี้
ความคิดเห็น 0