ตลาดหุ้นและคริปโตเคลื่อนไหวเข้าช่วงฟื้นตัวอีกครั้งในช่วงปลายปี โดยมีกระแสเงินสดที่ปรับตัวดีขึ้นและนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนแปลงเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ ตามข้อมูลล่าสุดจากบริษัทจัดการลงทุน อาร์คอินเวสต์ ระบุว่าหลังการยุติภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐ มีเงินทุนประมาณ 7 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 10.2 ล้านล้านวอน) ไหลเข้าสู่ระบบการเงินแล้ว และอาจมีเงินทุนเพิ่มอีกถึง 3 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 43.8 ล้านล้านวอน) ในอีก 5–6 สัปดาห์ข้างหน้า อันเป็นผลจากการฟื้นฟูบัญชีทั่วไปของกระทรวงการคลัง (TGA)
หนึ่งใน ‘คำ’ สำคัญที่กำลังจะเปลี่ยนทิศทางตลาดคือ การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เตรียมสิ้นสุดนโยบาย ‘คุมเข้มเชิงปริมาณ’ หรือ QT และเริ่ม ‘ผ่อนคลายเชิงปริมาณ’ หรือ QE อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ โดย QE คือการจัดซื้อตราสารหนี้เช่นพันธบัตรรัฐบาลเพื่อเพิ่ม ‘สภาพคล่อง’ ในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีบทบาทเป็นเชื้อเพลิงให้สินทรัพย์เสี่ยงเติบโตอย่างรวดเร็ว
อาร์คอินเวสต์โพสต์บนแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อทวิตเตอร์) ว่า “การฟื้นสภาพคล่อง การยุติ QT และการเปลี่ยนนโยบาย ณ เวลานี้ กำลังสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพลิกฟื้นของตลาดหลังปรับฐานในช่วงที่ผ่านมา” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในทิศทางเชิงบวกของตลาดทั่วโลก
ในช่วงจังหวะเปลี่ยนผ่านนี้ สินทรัพย์สำคัญอย่าง ‘บิตคอยน์(BTC)’ และตลาดคริปโตทั้งหมด กำลังได้รับความสนใจอีกครั้ง มีการประเมินว่าการปรับฐานหลังการพุ่งแรงช่วงต้นปี ได้สิ้นสุดลงแล้ว และตอนนี้ตลาดอาจเข้าสู่ช่วงของ ‘การฟื้นตัวก่อนเข้าสู่ปีใหม่’
‘คำ’ สำคัญที่นักลงทุนควรให้ความสนใจคือการยุติ QT ซึ่งอาจกลายเป็น “สัญญาณเชิงบวก” ต่อคริปโตและสินทรัพย์เสี่ยงในวงกว้าง โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดเริ่มตอบรับกระแสการไหลเข้าของสภาพคล่องใหม่ ความคิดเห็นจากสายการเงินยังคาดว่า ‘การเคลื่อนไหวครั้งนี้’ จะสร้างแรงผลักให้ตลาดคริปโตสามารถสร้างเทรนด์ขาขึ้นใหม่ต้อนรับปี 2024 ได้อีกครั้ง
ความคิดเห็น 0