สเตเบิลคอยน์อาจมียอดธุรกรรมแซงหน้าระบบ ACH ของสหรัฐในปี 2026 ตามการคาดการณ์ของ Galaxy Research
สเตเบิลคอยน์อาจประมวลผลปริมาณธุรกรรมรวมได้มากกว่าระบบเคลียร์ริ่งอัตโนมัติของสหรัฐ (ACH) ภายในปี 2026 หากการยอมรับที่เพิ่มขึ้นและความชัดเจนทางกฎหมายยังคงดำเนินต่อไป บริษัทวิจัย Galaxy Research ซึ่งเป็นแผนกวิจัยของบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัล Galaxy Digital ระบุว่า ขณะนี้สเตเบิลคอยน์มียอดธุรกรรมรวมแซงระบบบัตรเครดิตรายใหญ่ เช่น วีซ่า และเทียบเท่าประมาณ ‘ครึ่งหนึ่ง’ ของปริมาณธุรกรรมทั้งหมดของระบบ ACH แล้ว
ธาด พินาเคียวิกซ์ รองประธานของ Galaxy Research กล่าวว่า ปริมาณสเตเบิลคอยน์ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 30%–40% ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการใช้งานที่สูงขึ้นตามอัตราการออกเหรียญใหม่
Galaxy ยังชี้ว่าการกำหนดนิยามตามกฎหมาย GENIUS Act ที่จะเริ่มบังคับใช้ในต้นปี 2026 จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งเสริมการใช้งานสเตเบิลคอยน์ให้เติบโตยิ่งขึ้น ‘คำ’
ในรายงานฉบับเดียวกันนี้ Galaxy ยังคาดการณ์ว่า บิตคอยน์(BTC) อาจแตะระดับราคาสูงถึง 250,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2027 อย่างไรก็ตาม อเล็กซ์ ธอร์น หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Galaxy กล่าวว่า ปี 2026 ยังคงเป็นปีที่มีความไม่แน่นอนสูง แม้ว่าการทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งของบิตคอยน์ในปีนั้นจะ ‘ยังมีความเป็นไปได้’
แวดวงสเตเบิลคอยน์ยังคึกคักอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลของ DefiLlama มูลค่าตลาดรวมของสเตเบิลคอยน์ในปัจจุบันอยู่ที่ราว 309 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแม้ว่า USDt(USDT) ของ Tether และ USDC(USDC) ของ Circle ยังครองส่วนแบ่งหลักในตลาด แต่ก็มีสถาบันการเงินและผู้ให้บริการชำระเงินจำนวนมากที่ประกาศเข้าร่วมแข่งขันในตลาดนี้ในช่วงที่ผ่านมา
เมื่อเดือนตุลาคม Western Union เผยแผนเปิดตัวเหรียญสเตเบิลคอยน์ของตนเองชื่อ US Dollar Payment Token ซึ่งจะอ้างอิงมูลค่ากับดอลลาร์สหรัฐ, พัฒนาอยู่บนบล็อกเชนโซลานา(SOL) และออกโดย Anchorage Digital Bank เพื่อนำไปใช้งานในระบบชำระเงินดิจิทัลที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น
ขณะที่ Sony Bank มีรายงานว่ากำลังเตรียมเปิดตัวสเตเบิลคอยน์ที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐเช่นกัน เพื่อใช้งานบนระบบนิเวศของ Sony ในสหรัฐ เช่น เกมแพลตฟอร์ม PlayStation, ระบบสมาชิก และคอนเทนต์ประเภทอนิเมะ โดยคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026
ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา SoFi Technologies ประกาศเปิดตัวเหรียญสเตเบิลคอยน์ SoFiUSD ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ที่มีสำรองเต็ม 100% และออกโดยธนาคารในเครือคือ SoFi Bank โดยมีจุดประสงค์เพื่อรองรับการชำระเงินต้นทุนต่ำสำหรับธนาคาร, บริษัทฟินเทค และแพลตฟอร์มระดับองค์กร เหรียญนี้จะเปิดใช้งานบนบล็อกเชนของอีเธอเรียม(ETH)
เจียนิง อู นักวิเคราะห์ของ Galaxy Research แสดงความคิดเห็นว่า ในปี 2026 เหรียญสเตเบิลคอยน์จากบริษัทแบบดั้งเดิม (TradFi) ที่จับมือกับพันธมิตรระดับองค์กรจะมีแนวโน้มรวมศูนย์มากขึ้น เพราะผู้ใช้และร้านค้าไม่ต้องการรองรับเหรียญดิจิทัลหลายสกุลเกินความจำเป็น และจะเลือกใช้เพียงหนึ่งหรือสองเหรียญที่ได้รับการยอมรับกว้างขวางที่สุด ‘ความคิดเห็น’
ความคิดเห็น 0