เครือข่าย 1inch เผยทิศทางฟื้นตัวช่วงไตรมาส 3 ปี 2025 โดยมี ‘Fusion+’ เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก พร้อมผสานการทำงานกับโซลานาเสริมพลังกลยุทธ์มัลติเชน
เมื่อวันที่ 24 ตามรายงานของ Messari แพลตฟอร์มวิจัยคริปโตระดับโลก เครือข่าย 1inch Network ได้แสดงสัญญาณฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3 ปี 2025 จากผลิตภัณฑ์สำคัญทั้งโปรโตคอลรวบรวมแบบกระจายศูนย์ การเทรดแบบกำหนดราคา และโหมด Fusion โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘Fusion+’ ที่เปิดตัวใหม่ทำสถิติสูงสุดทั้งในด้านปริมาณการซื้อขายและจำนวนผู้ใช้งาน อีกทั้งการบูรณาการระหว่างโซลานาและ EVM ยังถูกมองว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในกลยุทธ์ ‘มัลติเชน’ ของ 1inch อย่างชัดเจน
ข้อมูลจากรายงานระบุว่า ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของโหมด Fusion เพิ่มขึ้นสูงถึง 60.6% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า อยู่ที่ประมาณ 67.6 ล้านดอลลาร์ ความต้องการใช้งานที่กลับมาทำให้การแข่งขันระหว่าง ‘รีโซลเวอร์’ เข้มข้นขึ้น โดย Keystone ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดที่ 28.6% ความสามารถของ Fusion ในการรองรับการซื้อขายแบบไม่ใช้แก๊สและป้องกัน MEV ช่วยเสริมสร้างระบบนิเวศที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน ขณะที่ปริมาณคำสั่งในระบบ Fusion ก็เพิ่มขึ้น 12.2% สะท้อนถึงการใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในส่วนของโปรโตคอล ‘Fusion+’ ซึ่งเป็นรุ่นขยายจาก Fusion พบว่ามีการเติบโตสูงสุดภายในไตรมาส โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยกลางวันเพิ่มขึ้น 129.1% ส่วนจำนวนที่อยู่ที่ใช้งานเพิ่ม 76.5% ความสำเร็จนี้เกิดจากการขยายครอบคลุมครอสเชน และการใช้งานร่วมกับโซลานา-EVM แบบเนทีฟ ซึ่งช่วยขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน ทำให้โซลานาถูกยกระดับเป็น ‘ปลายทางหลัก’ ของกลยุทธ์ครอสเชนของ 1inch อย่างสมบูรณ์
โปรโตคอลลิมิตออร์เดอร์เองก็กลับมาเติบโตเช่นกัน โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันราว 87.7 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 29.7% จากไตรมาสก่อน บนเครือข่ายอีเธอเรียม โปรโตคอลนี้ยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 83.4% ขณะที่ในเครือข่ายอีวีเอ็มอื่นอย่างอาร์บิทรัมและเบส ก็มีอัตราการเติบโตที่ 127.3% และ 65.6% ตามลำดับ แสดงถึงความต้องการที่กลับมาสำหรับการทำธุรกรรมแบบกำหนดราคา ซึ่งสวนทางกับแนวโน้มการเลือกซื้อขายแบบสปีดราวติ้งในไตรมาสก่อนหน้า *ความเห็น: ผู้ใช้งานอาจหันกลับมาควบคุมความเสี่ยงด้วยคำสั่งล่วงหน้ามากขึ้น*
อย่างไรก็ตาม โปรโตคอล Aggregation ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของ 1inch เผชิญกับแรงกดดัน โดยมีปริมาณเฉลี่ยต่อวันลดลงถึง 41.3% มาอยู่ที่ 494.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นการกลับสู่ระดับปกติหลังจากหมดแรงหนุนจากอินเซนทีฟของ BNB เชนในไตรมาสก่อน แต่ถึงอย่างนั้น อีเธอเรียมยังคงรักษาผลการดำเนินงานได้ ด้วยสภาพคล่องและความมั่นคงแบบดั้งเดิม ขณะเดียวกัน พอลิกอนและเชนรายย่อยอื่นก็เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวบางส่วน
ในมุมของส่วนแบ่งตลาด ภาพการแข่งขันทวีความดุเดือดมากขึ้น โดยส่วนแบ่งตลาดของโปรโตคอลรวบรวมของ 1inch ร่วงลงจาก 59.1% เหลือเพียง 28.3% ขณะที่ผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง ZeroEx, Kyber และ CowSwap เริ่มขึ้นมาแทนที่ ZeroEx ดึงดูดผู้ใช้งานเฉลี่ย 1.16 ล้านรายต่อเดือน คิดเป็นส่วนแบ่ง 38.3% มากกว่า 1inch ที่แม้ยังคงมีผู้ใช้งาน 967,000 ราย แต่ส่วนแบ่งลดมาเหลือ 31.8% เท่านั้น *ความเห็น: สถานะผู้นำของ 1inch ในตลาด Aggregator เริ่มสั่นคลอน*
แม้สัดส่วนตลาดจะลดลง แต่ 1inch ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิคและระบบธรรมาภิบาล โดยเฉพาะการผสานสภาพคล่องครอสเชนแบบไม่ต้องเชื่อถือระหว่างโซลานา-EVM การผนวกรวมกระเป๋าเงินและ API หลากหลายมากขึ้น และระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุง ทั้งยังมีการดำเนินงานด้าน DAO อย่างเข้มข้น โดยใช้งบประมาณรวมกว่า 3.78 ล้านดอลลาร์ในโครงการต่าง ๆ เช่น การตรวจสอบความปลอดภัยของโปรโตคอล พัฒนา UI และสนับสนุนแฮกกาธอนระดับโลก
อีกหนึ่งกลไกสำคัญของระบบนิเวศ 1inch คือ ‘ยูนิคอร์นพาวเวอร์(Unicorn Power)’ ที่เกิดขึ้นจากการนำโทเคน 1INCH ไปสเตก และใช้ส่งต่อสิทธิ์ไปยังรีโซลเวอร์ ซึ่งถูกจูงใจด้วยรางวัลจากการประมวลผลคำสั่งซื้อขาย โครงสร้างนี้ส่งผลต่อมูลค่าโทเคนในภาพรวม
กล่าวโดยสรุป ผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2025 แสดงให้เห็นถึงพลังของกลยุทธ์มัลติเชนและแนวทางที่เน้นผู้ใช้งานของ 1inch ที่ช่วยให้เกิดการฟื้นตัวและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Fusion+ ที่ถูกคาดหมายว่าจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในตลาดครอสเชนสวอปในอนาคต
ความคิดเห็น 0