ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามคำสั่งสำรองบิตคอยน์(BTC) ตามยุทธศาสตร์ ซึ่งสร้างความผันผวนในตลาด
ตามข้อมูลจากตลาดคริปโต หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศแผนสำรองบิตคอยน์ของรัฐบาลสหรัฐ ราคาของบิตคอยน์เกิด ‘ความผันผวนสูง’ โดยมีการพุ่งขึ้นและร่วงลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า นโยบายดังกล่าวไม่ได้รวมถึงการซื้อบิตคอยน์เพิ่ม แต่เป็นเพียงการจัดการทรัพย์สินที่รัฐบาลสหรัฐยึดมาได้เท่านั้น ทำให้ตลาดผิดหวัง
ธีโอดอร์ อากรานาต นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า “คำสั่งบริหารนี้ไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาดหวัง” เสริมว่า “มีความคาดหมายว่ารัฐบาลจะใช้เงินงบประมาณในการซื้อบิตคอยน์ แต่เนื้อหาจริงของนโยบายกลับเป็นเพียงแค่การจัดการสินทรัพย์ที่ถูกยึดมา” ขณะที่คาตาลิน ทีชเฮาเซอร์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยจากซิกนัม(Sygnum) มองว่า “เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากทางกฎหมายที่ประธานาธิบดีจะสามารถสั่งซื้อบิตคอยน์โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรส” พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า “ไม่มีการซื้อโดยตรงจากรัฐบาล โอกาสที่ตลาดจะตอบสนองในแง่บวกจึงต่ำ”
หลังคำประกาศ ราคาบิตคอยน์ปรับตัวลดลงประมาณ 2% ขณะที่ดัชนี ATR ซึ่งใช้วัดความผันผวนในช่วง 24 ชั่วโมง พุ่งเกิน 5,000 จุด สูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับค่าก่อนหน้าที่ 3,000 จุดในเดือนที่แล้ว ตลาดฟิวเจอร์สบิตคอยน์ของตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก(CME) ก็ได้รับผลกระทบ โดยสัญญาส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงกว่า 2% และสัญญาที่จะหมดอายุในเดือนกรกฎาคม 2025 ลดลงมากกว่า 4% ส่งผลให้มุมมองต่อตลาดในระยะกลางมีแนวโน้มเชิงลบ
ศาสตราจารย์คริสติอาโน เบลลาวิติส จากมหาวิทยาลัยซีราคิวส์ ให้ความเห็นว่า “ผลกระทบระยะยาวจะขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลบริหารสินทรัพย์ดังกล่าวอย่างไร” และเสริมว่า “หากรัฐบาลสหรัฐเริ่มเข้าซื้อบิตคอยน์และลงทุนในระดับหลายพันล้านดอลลาร์ อาจส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญ”
แม้ว่าการตอบสนองของตลาดในตอนนี้จะเป็นไปในทางลบ แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ทิศทางในอนาคตยังขึ้นอยู่กับ ‘รายละเอียดของนโยบาย’ และแนวทางการดำเนินการของรัฐบาลสหรัฐในระยะถัดไป
ความคิดเห็น 0