ตลาดคริปโตเผชิญแรงขายหนัก หลังบิตคอยน์(BTC) หลุด 87,000 ดอลลาร์ นักลงทุนเริ่มระวัง

ตลาดคริปโตเผชิญแรงกดดันจากฝั่งขาลงหลังบิตคอยน์(BTC) ไม่สามารถยืนเหนือระดับ 87,000 ดอลลาร์ได้ ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ(FOMC) และ ‘แรลลี่ของทรัมป์’ ที่ดูเหมือนจะสูญเสียแรงหนุน

เมื่อวันที่ 21 ตามเวลาท้องถิ่น มูลค่าตลาดรวมของคริปโตเคอร์เรนซีลดลง 2.5% มาอยู่ที่ 2.75 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,015 ล้านล้านวอน) นักวิเคราะห์มองว่าการปรับฐานครั้งนี้เกิดจากหลายปัจจัย อันดับแรก การไหลออกของเงินทุนมูลค่า 230 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,358 พันล้านวอน) ภายใน 24 ชั่วโมง กดดันให้ตลาดปรับตัวลง นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างตลาดหุ้นสหรัฐฯ กับตลาดคริปโตที่ยังคงสูง ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะลดความเสี่ยง

จุดที่น่าสนใจคือบิตคอยน์ซึ่งเคยพุ่งแรงกลับเผชิญแรงขายทำกำไรอย่างหนัก ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวถึงนโยบายคริปโตที่งานประชุมสินทรัพย์ดิจิทัลที่นิวยอร์ก แต่ไม่มีประกาศสำคัญเพิ่มเติม ส่งผลให้ตลาดขาดปัจจัยกระตุ้น นักลงทุนจึงทยอยขายทำกำไร บิตคอยน์ร่วงลงจากระดับ 87,000 ดอลลาร์ กดดันให้ตลาดโดยรวมปรับตัวลง ส่วนอีเธอเรียม(ETH) ก็ร่วงติดต่อกันสองวันต่ำกว่าระดับ 2,000 ดอลลาร์ ขณะที่เหรียญอื่นๆ เช่น โซลานา(SOL), ริปเปิล(XRP) และคาร์ดาโน(ADA) ลดลง 4.2%, 4% และ 3% ตามลำดับ

แรงกดดันขายยังนำไปสู่การล้างพอร์ตของนักลงทุนที่ใช้เลเวอเรจอย่างหนัก โดยมีการบังคับปิดสถานะเป็นมูลค่าถึง 235 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,434 พันล้านวอน) ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้ 170 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,486 พันล้านวอน) เป็นสถานะ ‘ลอง’ ทำให้เห็นว่านักลงทุนจำนวนมากเดิมพันว่าราคาจะขึ้นแต่สุดท้ายต้องเผชิญกับการปรับลดลง

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปรับฐานของคริปโตเช่นกัน เมื่อวันที่ 20 ดัชนี S&P500 ลดลง 0.22% ส่วนดัชนี Nasdaq ลดลง 0.33% นักวิเคราะห์เตือนว่า แม้จะเป็นการผันผวนตามปกติ แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนโดยรวมกำลังอ่อนแอ หนึ่งในนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างคริปโตและดัชนี Nasdaq 100 ยังคงสูง ทำให้มีโอกาสที่ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลจะยังคงผันผวนในระยะสั้น”

ในแง่ของการวิเคราะห์ทางเทคนิค มูลค่าตลาดรวมของคริปโตกำลังเคลื่อนไหวภายใน ‘รูปแบบธงขาลง’ (Bear Flag) และหากยืนยันการปรับตัวลง อาจเห็นระดับ 2.23 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,259 ล้านล้านวอน)

ขณะเดียวกัน ‘ดัชนีความกลัวและความโลภ’ (Fear & Greed Index) ล่าสุดอยู่ที่ 27 บ่งชี้ว่าตลาดเข้าสู่โซน ‘ความกลัว’ นักวิเคราะห์แนะนำว่า แม้ปัจจุบันมูลค่าตลาดยังรักษาระดับ 2.75 ล้านล้านดอลลาร์ไว้ได้ แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังไม่มั่นคง นักลงทุนจึงควรมีความรอบคอบในการตัดสินใจลงทุน