ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง หลังได้รับแรงกดดันจากนโยบายภาษีใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์ รวมถึงแรงขายจากการปิดสถานะ ‘ลอง’ ในปริมาณมาก
เมื่อวันที่ 27 มูลค่าตลาดคริปโตทั้งหมดลดลง 0.91% มาอยู่ที่ประมาณ 2.77 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,049 ล้านล้านวอน) ซึ่งถือเป็นการลดลงจากระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ที่ 2.86 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,175 ล้านล้านวอน) นักวิเคราะห์ชี้ว่าปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาปรับฐานได้แก่ ▲นโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ▲แรงเทขายจากเลเวอเรจที่สูงเกินไป ▲สัญญาณการขายจากปัจจัยทางเทคนิค
แรงกดดันจากข้อพิพาททางการค้ากลับมามีอิทธิพลต่อตลาดอีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 25 รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษี 25% สำหรับการนำเข้ารถยนต์และสินค้าอื่นจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ดัชนี S&P 500 ยังร่วงลง 1.85% หลังประกาศนโยบายดังกล่าว
อัลแบร์โต มูซาเล็ม ประธานธนาคารกลางเซนต์หลุยส์ เตือนว่าการขึ้นภาษีนำเข้าจะเพิ่มแรงกดดันต่อต้นทุนสินค้าและเงินเฟ้อ เมื่อแนวโน้มเงินเฟ้อสูงขึ้น นักลงทุนจึงลดความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ย ล่าสุดโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ลดลงจาก 62.5% เหลือ 58% ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ถูกเทขายเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ จำนวนสถานะ ‘ลอง’ ที่ถูกปิดในตลาดคริปโตช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาก็เป็นอีกปัจจัยกดดัน โดยบิตคอยน์(BTC) มีสถานะถูกบังคับปิดรวม 62.45 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 91,300 ล้านวอน) ในจำนวนนี้ 48.94 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 71,600 ล้านวอน) เป็นสถานะ ‘ลอง’ ขณะที่อีเธอเรียม(ETH) มีสถานะ ‘ลอง’ ถูกปิด 43.76 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 63,900 ล้านวอน) การชำระบัญชีรวมในตลาดคริปโตแตะ 257.35 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 376,200 ล้านวอน) โดย 198.11 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 289,400 ล้านวอน) เป็นการปิดสถานะ ‘ลอง’
มีการคาดการณ์ถึงแนวโน้มขาลงของตลาดเพิ่มเติม โดยในชาร์ตมูลค่าตลาดคริปโตทั้งหมดได้ก่อตัวรูปแบบ ‘ลิ่มขาขึ้น’ ซึ่งมักเป็นสัญญาณของการกลับทิศทางลง ปัจจุบันมูลค่าตลาดซื้อขายต่ำกว่าระดับ 2.78 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,064 ล้านล้านวอน) หากหลุดแนวรับสำคัญที่ 2.75 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,015 ล้านล้านวอน) อาจร่วงต่อไปถึง 2.54 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,710 ล้านล้านวอน)
ขณะเดียวกัน เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (2.88 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4,208 ล้านล้านวอน) และ 200 วัน (2.86 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4,175 ล้านล้านวอน) กำลังกลายเป็นแนวต้านสำคัญ หากไม่สามารถทะลุแนวต้านนี้ขึ้นไปได้ อาจทำให้แรงกดดันฝั่ง ‘ขาย’ ยังคงอยู่
ผู้เชี่ยวชาญตลาดเตือนว่า นักลงทุนควรติดตามการเปลี่ยนแปลงของนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ และตัวแปรมหภาคอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0