ตลาดคริปโตในปี 2025 ยังคงมีแนวโน้มเติบโต แต่ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ และโครงสร้างแบบ ‘วงจรปิด’ ของอุตสาหกรรมอาจเป็นอุปสรรค
นักวิเคราะห์ตลาดคาดการณ์ว่าราคา ‘บิตคอยน์(BTC)’ อาจพุ่งขึ้นสูงสุดถึง 180,000 ดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2025 อย่างไรก็ตาม อาเธอร์ ไบรท์แมน(Arthur Breitman) ผู้ร่วมก่อตั้ง ‘เทโซส(Tezos)’ เตือนว่าโครงสร้างของอุตสาหกรรมคริปโตที่มีลักษณะ ‘วงจรปิด’ อาจขัดขวางการเติบโตในระยะยาว
ไบรท์แมนชี้ว่า “หัวใจของการเงินแบบกระจายศูนย์(DeFi) อยู่ที่การระดมทุน แต่ปัจจุบันเงินทุนส่วนใหญ่ไหลเวียนภายในโครงการ DeFi เดิมๆ เท่านั้น” ซึ่งทำให้การเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจที่แท้จริงลดลง นอกจากนี้ เขายังตั้งคำถามถึงพฤติกรรมของนักลงทุนที่ซื้อเหรียญคริปโตเพียงเพราะคาดว่าคนอื่นจะซื้อต่อ ซึ่งอาจไม่ใช่แนวทางการเติบโตที่ยั่งยืน
อีกปัจจัยที่สร้างความกังวลคือความผันผวนของตลาด ‘เหรียญมีม’ ที่เริ่มดูดสภาพคล่องจากตลาดคริปโตหลัก และส่งผลให้ตลาดโดยรวมเผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ‘โซลานา(SOL)’ มีการไหลออกของเงินทุนถึง 485 ล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเหตุการณ์ฉ้อโกงในตลาดเหรียญมีมที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ความเสี่ยงอีกประการคือความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไบรท์แมนระบุว่า แม้ตลาดคริปโตกำลังได้รับปัจจัยบวกหลายอย่าง แต่สัญญาณ ‘ภาวะเศรษฐกิจถดถอย’ ยังคงปรากฏอย่างต่อเนื่อง และตลาดคริปโตที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหุ้นเทคโนโลยีอาจเผชิญแรงเทขายในช่วงเศรษฐกิจขาลง
ปัจจัยเพิ่มเติมที่อาจกดดันตลาดคริปโตคือ ‘นโยบายการค้า’ ของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งการปรับขึ้นภาษีนำเข้าและมาตรการตอบโต้ของประเทศคู่ค้า อาจเพิ่มความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และส่งผลกระทบต่อสภาพตลาดคริปโตด้วย
ตามข้อมูลจากตลาดพยากรณ์ ‘โพลีมาเก็ต(Polymarket)’ สัดส่วนของนักลงทุนที่เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2025 พุ่งจาก 22% เป็นมากกว่า 40% ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ภาคอุตสาหกรรมกำลังจับตาดูว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกจะส่งผลต่อตลาดคริปโตอย่างไรในอนาคต
ความคิดเห็น 0