เครือข่ายไฟน์เน็ตเวิร์ก(Pi Network) ที่เพิ่งเปิดตัวเมนเน็ตเมื่อไม่นานมานี้ กำลังกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในวงการคริปโต หลังเผชิญกับคำวิจารณ์เรื่อง *ราคาร่วง*, *ข้อกล่าวหาว่าเป็นโครงการหลอกลวง* และการเปลี่ยนระบบยืนยันตัวตนของบัญชีผู้ใช้ โดยแม้จะเริ่มต้นด้วยความคาดหวังสูงและสามารถไต่อันดับเข้ามาในกลุ่ม 100 อันดับแรกของโทเคนตามมูลค่าตลาดได้สำเร็จ แต่ก็ยังเผชิญกับความสงสัยด้านความน่าเชื่อถือจากทั้งผู้เชี่ยวชาญและสมาชิกในคอมมูนิตี้
เบน โจว(Ben Zhou) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบายบิท(Bybit) เคยกล่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนที่ไฟน์เน็ตเวิร์กจะเปิดตัวเมนเน็ต ว่าบริษัทไม่มีแผนจะลิสต์เหรียญดังกล่าว โดยอ้างอิงจากรายงานการสืบสวนของตำรวจจีน และเรียกโครงการนี้ว่าเป็น ‘สแกม’ อย่างไรก็ตาม ฝั่งไฟน์เน็ตเวิร์กได้ออกมาปฏิเสธอย่างหนักแน่นผ่านสื่อ The Defiant โดยระบุว่า โครงสร้างการแนะนำสมาชิกของพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับโมเดลการตลาดแบบแชร์ลูกโซ่ รายหนึ่งในทีมงานชี้แจงว่า *ผู้ใช้จะได้รับรางวัลการขุดเฉพาะจากผู้ที่ตนชวนเข้าระบบโดยตรงเพียงรายเดียวเท่านั้น*
ด้านราคาของโทเคนไฟน์(Pi) ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ร่วงลงไปแล้วราว 22.5% และภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาก็ลดลงอีกกว่า 6% จนหลุดระดับ 0.8 ดอลลาร์ ปัจจุบันถือเป็นโทเคนที่ทำผลตอบแทนได้ต่ำที่สุดในกลุ่ม 100 อันดับแรก โดยตามมาด้วยเหรียญไฮเปอร์ลิควิดและแคสปา(Kaspa) แนวโน้มลดลงเช่นนี้ อาจถูกมองว่าเป็นการเคลื่อนไหวตามตลาดคริปโตที่กำลังชะลอตัว โดยไม่มีกรณีลบเฉพาะตัว
ขณะเดียวกัน แพลตฟอร์มก็เร่งปรับปรุงระบบยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน จากเดิมที่ใช้บัญชีอิงเบอร์โทรศัพท์ ไปสู่ระบบ *ยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอนผ่านอีเมล* ทีมงานไฟน์เน็ตเวิร์กระบุผ่านบล็อกว่า โครงสร้างเดิมนั้นมีข้อจำกัดทั้งในด้านต้นทุนและความน่าเชื่อถือ จึงมีแผนจะเปลี่ยนไปใช้ระบบใหม่ที่ให้การยืนยันตัวตนที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น
"ความคิดเห็น" ความเคลื่อนไหวเหล่านี้สะท้อนความพยายามของไฟน์เน็ตเวิร์กในการป้องกันตัวจากข้อครหาเรื่องการหลอกลวง และปรับปรุงโครงสร้างการจัดการผู้ใช้ให้รัดกุม อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญอย่าง *สถานะการลิสต์เหรียญในตลาดกลาง*, *ปริมาณเหรียญหมุนเวียนในตลาด* และ *มูลค่าโครงการโดยรวม* ยังคงคลุมเครือ จึงอาจทำให้ความกังวลต่อโครงการยังไม่หมดไปในเร็ววัน
ความคิดเห็น 0