ตลาดคริปโตผันผวน! เหรียญ ACT ร่วง 58% สูญเงินกว่า 1,400 ล้านบาท หลังไบแนนซ์ปรับเลเวอเรจ

ตลาดคริปโตได้รับแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากอัลต์คอยน์และเหรียญมุกส์หลายเหรียญร่วงลงอย่างรุนแรง โดยหนึ่งในนั้นคือ ACT ซึ่งเป็นโทเคนที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์ปัญญาประดิษฐ์ 'Act I The AI Prophecy' ซึ่งราคาร่วงลงถึง 58% ภายในไม่กี่นาที จาก 0.19 ดอลลาร์เหลือเพียง 0.08 ดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าตลาดหายไปราว 96 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,402 ล้านบาท)

แรงขายกระจายไปยังเหรียญอื่นๆ อย่าง *HIPPO, BROCCOLI, KISHU, DEXE* และ *DF* จนสร้างแรงสั่นสะเทือนในกลุ่มอัลต์คอยน์ขนาดกลางและเล็ก แม้จะเกิดแรงเทขายกะทันหันในตลาด แต่ *บิตคอยน์(BTC)* ยังสามารถรักษาเสถียรภาพได้ดี ไม่ก่อให้เกิดภาวะตื่นตระหนกในวงกว้าง

ฝั่ง ACT ได้ออกแถลงการณ์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย โดยระบุว่าทางโครงการทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังหารือกับ “พันธมิตรที่เชื่อถือได้” เพื่อหาทางออก อย่างไรก็ตาม บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน ลุคออนเชน(Lookonchain) ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ *เลเวอเรจ* และ *มาร์จิน* สำหรับคู่ซื้อขาย *ACT/USDT* ของ *ไบแนนซ์* เป็นตัวกระตุ้นสำคัญ โดยการปรับดังกล่าวทำให้เกิดการบังคับขายบัญชีล่วงหน้ารวมมูลค่า 3.79 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 553.4 ล้านบาท)

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ความตื่นตระหนกทวีความรุนแรงคือการคาดการณ์ว่าบริษัทเทรดดิ้งระดับโลกอย่าง วินเทอร์มิวต์(Wintermute) อาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแรงขายครั้งนี้ โดยในชุมชนออนไลน์เริ่มมีการพูดถึงการขายเหรียญหลายรายการของวินเทอร์มิวต์ ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาการถูกแฮ็ก, การขาดสภาพคล่อง หรือการถูกมาร์จินคอล หนึ่งในผู้ใช้งานยังอ้างว่า วินเทอร์มิวต์อาจพยายามลดความเสี่ยงจากสินทรัพย์ที่ "ไม่เป็นไปตามแนวนโยบาย" ซึ่งอาจเกี่ยวพันกับเหรียญเสถียร USD1 ที่มีความเกี่ยวข้องกับ *ทรัมป์* อีกด้วย

ด้าน เอฟเกนี แกโวย์(Evgeny Gaevoy) ผู้ร่วมก่อตั้งวินเทอร์มิวต์ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว พร้อมยืนยันว่า “เราไม่เกี่ยวข้อง” หลังจากนั้นผู้ใช้ที่เป็นต้นตอของข่าวลือก็ออกมาชี้แจงความเข้าใจผิด

เหตุการณ์นี้สะท้อนถึง ‘โครงสร้างที่เปราะบางของตลาดคริปโต’ โดยเฉพาะในส่วนของกลไก *เลเวอเรจ* ที่ยังไวต่อการปรับเปลี่ยนนโยบายของแพลตฟอร์ม ในขณะที่ *บิตคอยน์(BTC)* ยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้นได้อย่างมั่นคง เหรียญขนาดเล็กกลับมีความเสี่ยงสูงต่อความผันผวน ซึ่งก่อให้เกิดกระแสวิตกเรื่องเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันที่จะตามมาในอนาคต