จำนวนเหรียญคริปโตแตะ 11 ล้าน ส่อสัญญาณตลาดล้นเกิน นักลงทุนกังวลผลกระทบระยะยาว

จำนวนสกุลเงินดิจิทัลที่ลงทะเบียนใน ‘คอยน์มาร์เก็ตแคป’ ใกล้แตะ 11 ล้านเหรียญ ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาดล้นเกิน

จากข้อมูลล่าสุดของ ‘คอยน์มาร์เก็ตแคป’ ปัจจุบันมีเหรียญและโทเคนดิจิทัลที่ลงทะเบียนแล้วกว่า 10.99 ล้านรายการ ความเคลื่อนไหวนี้ชัดเจนมากขึ้นในช่วงปี 2024 และต้นปี 2025 โดยเฉพาะในเครือข่ายโซลานา(SOL) ซึ่งมีการเปิดตัว ‘มีมคอยน์’ จำนวนมาก

นักวิเคราะห์บางรายมองว่า การเพิ่มขึ้นของมีมคอยน์ได้ลดทอนความสนใจที่เคยมุ่งไปยัง ‘อัลต์คอยน์เชิงเทคโนโลยี’ ส่งผลให้มูลค่าพิเศษที่มักเกิดจากการเก็งกำไรในตลาดถูกกัดกร่อน นอกจากนี้ นักลงทุนบางส่วนยังแสดงความกังวลว่า การไหลบ่าเข้ามาของเหรียญใหม่จำนวนมากอาจทำให้ความสนใจและเงินทุนในตลาดถูกแบ่งกระจายมากเกินไป จนนำไปสู่ภาวะตลาดอิ่มตัว

นักวิเคราะห์ตลาด อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) ระบุว่า ปัจจุบันมีอัลต์คอยน์มากกว่า 36 ล้านรายการ ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2018 (ประมาณ 3,000 รายการ) และช่วงปี 2013-2014 (ประมาณ 500 รายการ) เขาให้ความเห็นว่า การมีเหรียญมากเกินไปเช่นนี้อาจทำให้โอกาสเกิด ‘ฤดูกาลอัลต์คอยน์’ ในอนาคตลดน้อยลง

อัตราการออกเหรียญใหม่ที่สูงยังเป็นความท้าทายสำหรับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน ด้วยเช่นกัน ไบรอัน อาร์มสตรอง(Brian Armstrong) ซีอีโอของ ‘คอยน์เบส’ กล่าวว่า "ขณะนี้มีโทเคนใหม่เกิดขึ้นมากถึง 1 ล้านรายการต่อสัปดาห์" และเขาเสริมว่า "เป็นไปไม่ได้อีกต่อไปที่จะตรวจสอบเหรียญใหม่ทั้งหมดแบบรายบุคคล" พร้อมทั้งเรียกร้องให้ภาครัฐปรับปรุงกระบวนการกำกับดูแล เพื่อให้สามารถดำเนินการจดทะเบียนโทเคนได้รวดเร็วขึ้น

ขณะเดียวกัน แดน โนวาอีส(Dan Novaes) ผู้ร่วมก่อตั้ง EARN’M คาดการณ์ว่า ปี 2025 จะเป็น ‘ปีแห่งการรวมตัว’ สำหรับอุตสาหกรรมคริปโต โดยให้ความเห็นว่า "การออกเหรียญมากเกินไปกำลังเป็นอุปสรรคต่ออุตสาหกรรม" และเชื่อว่าแนวโน้มการควบรวมโครงการ รวมถึงการรวมโทเคน จะเพิ่มขึ้นในปีหน้า เขายังเปรียบเทียบสถานการณ์นี้กับช่วงปี 2008-2010 ซึ่งตลาดแอปพลิเคชันมือถือเริ่มเข้าสู่ ‘ระยะเติบโต’ และเกิดการควบรวมกิจการจำนวนมาก

ในขณะที่ตลาดคริปโตเคอเรนซียังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ผลกระทบระยะยาวของภาวะเหรียญล้นตลาดในครั้งนี้ต่ออุตสาหกรรมยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม