พาโอลо อาร์ดอยโน( Paolo Ardoino) ซีอีโoของ เทเธอร์( Tether) ให้ความเห็นว่า เทคโนโลยี ‘คอมพิวเตอร์ควอนตัม’ อาจสามารถ ‘แฮ็ก’ กระเป๋าบิตคอยน์(BTC) ที่สูญหายไป และทำให้เหรียญเหล่านั้นกลับคืนสู่ตลาดได้ อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นจริง อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดคริปโต
เมื่อวันที่ 8 อาร์ดอยโนโพสต์ข้อความบน X (ชื่อเดิมคือ Twitter) ว่า "บิตคอยน์ที่สูญหาย รวมถึงกระเป๋าของ ‘ซาโตชิ นากาโมโตะ’ อาจถูกกู้คืนได้ผ่านเทคโนโลยีควอนตัม" อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่า เทคโนโลยีนี้ ‘ยังไม่พัฒนาไปถึงจุดที่สามารถทำลายระบบความปลอดภัยของบิตคอยน์ได้’
คอมพิวเตอร์ควอนตัม เป็นเทคโนโลยีที่สามารถประมวลผลได้ซับซ้อนกว่าคอมพิวเตอร์ปัจจุบันหลายเท่า โดยอาศัยกลไกทางฟิสิกส์ควอนตัม ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าหากระบบนี้พัฒนาไปถึงระดับสูงสุด อาจสามารถเจาะระบบเข้ารหัสของบิตคอยน์และคริปโตสกุลอื่นๆ ได้
กระเป๋าเงินบิตคอยน์ที่สูญหายส่วนใหญ่ ไม่สามารถเข้าถึงได้ เนื่องจากเจ้าของทำ ‘คีย์ส่วนตัว’ หายไป อย่างไรก็ตาม หากคอมพิวเตอร์ควอนตัมพัฒนาถึงระดับสูงพอ อาจสามารถ ‘กู้คืน’ คีย์เหล่านั้นได้ ในทางกลับกัน กระเป๋าเงินที่ยังใช้งานอยู่ อาจสามารถเปลี่ยนไปใช้ระบบความปลอดภัยที่สามารถต้านทานควอนตัมได้
‘คริปโต สคัล’ (Crypto Skull) เทรดเดอร์นิรนามในวงการคริปโต โพสต์แสดงความเห็นว่า หากกระเป๋าบิตคอยน์เก่าของซาโตชิถูกนำกลับมาใช้งาน อาจทำให้ตลาดกลับสู่ ‘ยุคหิน’ ได้เลยทีเดียว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางรายเสนอแนวคิด ‘แช่แข็ง’ บิตคอยน์ 1 ล้าน BTC ของซาโตชิ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบ
ด้านมหาเศรษฐีและนักลงทุนบิตคอยน์ ชามาธ พาลิฮาพิติยา(Chamath Palihapitiya) เคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับประเด็นนี้เช่นกัน โดยในเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว เขาโพสต์ข้อความบน X ว่า "คอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจเป็นภัยคุกคามต่อเทคโนโลยีเข้ารหัสในยุคแรก" และแม้จะยังไม่ส่งผลในระยะสั้น แต่นักลงทุนจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต
งานวิจัยด้านคอมพิวเตอร์ควอนตัมเมื่อเดือนกรกฎาคม 2023 ระบุว่า “อัลกอริทึมของโกรเวอร์” (Grover’s Algorithm) อาจเป็น ‘เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุด’ ในการเจาะระบบของบิตคอยน์ อย่างไรก็ตาม การใช้เทคนิคดังกล่าวต้องการ ‘คิวบิต’ (Qubit) จำนวนหลายล้านหน่วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่สามารถทำได้ในปัจจุบัน
แม้ว่าความเสี่ยงจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมต่อเครือข่ายบิตคอยน์จะเป็นไปได้ในทางทฤษฎี แต่ในระยะสั้นยังไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า เทคโนโลยีเข้ารหัสที่สามารถต้านทานระบบควอนตัม จำเป็นต้องถูกพัฒนาเพื่อป้องกันความเสี่ยงในอนาคต
ความคิดเห็น 0