เดวิด แซคส์(David Sacks) หัวหน้าฝ่ายนโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์(AI) และสกุลเงินดิจิทัลประจำทำเนียบขาว ภายใต้ประธานาธิบดีทรัมป์ แสดงความคิดเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X เมื่อวันที่ 5 ว่า “สหรัฐฯ กำลังกลับมานำในเวทีการแข่งขันด้าน AI ระดับโลก” พร้อมชื่นชมโมเดลโอเพ่นซอร์สล่าสุดของเมตา(Meta) ว่าเป็นก้าวสำคัญในการรักษาความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ
คำกล่าวของแซคส์เกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันทั่วโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีนในด้าน AI โดยก่อนหน้านี้ เขาเคยเตือนว่าแม้สหรัฐฯ จะมีศักยภาพในการคว้าชัยชนะ แต่ไม่ควรประมาท โดยแสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของ AI ในยุทธศาสตร์เทคโนโลยีของรัฐบาลทรัมป์
ไม่นานหลังจากที่เมตาเปิดเผยโมเดล Llama 4 ทั้งสองรุ่นคือ ‘สเกาต์(Scout)’ และ ‘แมฟเวอริก(Maverick)’ ซึ่งมีพารามิเตอร์ 17,000 ล้านตัว โดยเฉพาะ ‘แมฟเวอริก’ ที่มีจำนวนโมเดลผู้เชี่ยวชาญถึง 128 ตัว เทียบกับสเกาต์ที่มี 16 ตัว เมตากล่าวว่าโมเดลใหม่นี้โดดเด่นด้านการประมวลผลมัลติโมดัล และแซงหน้าคู่แข่งอย่าง ‘เจมินี 2.0 แฟลช(Gemini 2.0 Flash)’ ของกูเกิล, ‘เจมมา 3(Gemma 3)’ ของดีปมายด์ และ ‘มิสตราล 3.1(Mistral 3.1)’ ในหลายดัชนีชี้วัด
ในแง่ประสิทธิภาพ เมตาระบุว่า แม้ ‘แมฟเวอริก’ จะใช้พารามิเตอร์น้อยกว่า แต่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีเทียบเท่ากับ GPT-4o ของโอเพ่นเอไอและ DeepSeek v3 โดยเฉพาะในภารกิจเขียนโค้ดและการอนุมานข้อมูล
นับตั้งแต่เมตาเปิดตัว Llama 1 แบบจำกัดในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 เทคโนโลยี AI ของบริษัทก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นหนึ่งในผู้นำของอุตสาหกรรมภายในเวลาเพียง 2 ปี โดยมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเมตา ได้เคยระบุในเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา ว่า Llama จะเป็นโมเดลที่เข้ามาเปลี่ยนเกมในปี 2025 ซึ่งการเปิดตัว Llama 4 ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญตามคำสัญญาดังกล่าว
แซคส์เชื่อว่า Llama 4 มีบทบาทสำคัญในการฟื้นคืนความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในตลาด AI แบบโอเพ่นซอร์ส โดย *ความคิดเห็น* นี้สอดคล้องกับทิศทางของรัฐบาลทรัมป์ ที่กำลังเร่งผลักดันนโยบายเทคโนโลยีเพื่อสร้างความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ ทั้งในภาค AI และสินทรัพย์ดิจิทัล
ความคิดเห็น 0