ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
เอฟทีเอกซ์(FTX) แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ล้มละลาย ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะไม่ดำเนินการจ่ายเงินตาม *สิทธิ์เรียกร้องของลูกค้า* มูลค่ารวมกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.92 หมื่นล้านบาท) ให้กับบัญชีที่ยังไม่ผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน (KYC) ภายในกำหนดเวลา
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) จากเอกสารที่ยื่นต่อศาลล้มละลายรัฐเดลาแวร์ สหรัฐอเมริกา ฝ่ายบริหารกิจการของเอฟทีเอกซ์ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ เปิดเผยว่าบัญชีลูกค้าที่ไม่เริ่มกระบวนการ KYC ภายในวันที่ 3 มีนาคม จะหมดสิทธิ์ในการยื่นคำร้องเรียกร้องเงินคืน แม้ก่อนหน้านี้เดดไลน์จะถูกเลื่อนจากวันที่ 1 มีนาคมเป็นระยะเวลา 3 วัน แต่ยังมีผู้ใช้จำนวนมากที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ทันเวลา
ซุนิล คาบูรี(Sunil Kavuri) ตัวแทนผู้ถือสิทธิเคลมของเอฟทีเอกซ์ กล่าวใน *ความคิดเห็น* ว่าจำนวนสิทธิ์เคลมที่ถูกตัดสิทธิ์ครั้งนี้มีมากกว่าที่คาดไว้ โดยแยกเป็นสิทธิ์ที่มีมูลค่าต่ำกว่า 5 หมื่นดอลลาร์ ราว 655 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 9.56 พันล้านบาท) และสิทธิ์ที่มีมูลค่าสูงกว่านั้นประมาณ 1.9 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.77 หมื่นล้านบาท) ซึ่งทั้งหมดนี้กระทบลูกค้าราว 392,000 บัญชี ข้อมูลของผู้ใช้กลุ่มนี้ถูกจัดเก็บไว้ในเอกสารยาวถึง 2,377 หน้า
ลูกค้าที่ไม่ดำเนินการ KYC ภายในรอบถัดไปจะต้องเผชิญกับผลลัพธ์เดียวกัน โดยฝ่ายจัดการของเอฟทีเอกซ์มีแผนตัดสิทธิ์คำร้องครั้งใหม่สำหรับบัญชีที่ไม่ยื่นเอกสารครบถ้วนตามที่ เอฟทีเอกซ์ รีคัฟเวอรีทรัสต์ (FTX Recovery Trust) หรือพันธมิตรร่วม KYC ต้องการ ภายในเวลา 16.00 น. ของวันที่ 1 มิถุนายน ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ
กระบวนการชำระหนี้คืนให้ลูกค้าทั้งหมดของเอฟทีเอกซ์จะเริ่มต้นในวันที่ 3 มกราคม 2025 โดยวางช่วงวงเงินรวมระหว่าง 12.6 พันล้านถึง 16.5 พันล้านดอลลาร์ (ราว 18.4 ถึง 24.1 หมื่นล้านบาท) โดยใช้มูลค่าทรัพย์สินในช่วงก่อนที่เอฟทีเอกซ์จะยื่นล้มละลายในเดือนพฤศจิกายน 2022 เป็นฐานในการพิจารณา
จอห์น เรย์(John Ray) ซีอีโอรักษาการของเอฟทีเอกซ์ ระบุว่า การตรวจสอบตัวตนของผู้ใช้เป็นขั้นตอน *สำคัญ* สำหรับกระบวนการชำระคืน โดยเขาชี้ว่าอดีตผู้บริหารของบริษัทเพิกเฉยต่อการตรวจสอบข้อมูลลูกค้าและแหล่งที่มาของเงินทุน ส่งผลให้ต้องนำกระบวนการที่เข้มงวดขึ้นมาใช้เพื่อรักษาความโปร่งใสและปกป้องสิทธิของเหยื่อจากเหตุล้มละลายในครั้งนี้
ความคิดเห็น 0