ตลาดคริปโตร่วงหนัก! บิตคอยน์(BTC) ดิ่ง 8% เหตุกังวลสงครามภาษี-เงินเฟ้อสหรัฐ

ตลาดคริปโตยังคงเผชิญความผันผวนหนัก โดยเฉพาะในสัปดาห์นี้ที่มีอีเวนต์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐหลายรายการ ซึ่งอาจส่งผลต่อบิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และภาพรวมของสินทรัพย์ดิจิทัล ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่ตึงเครียดมากขึ้นหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศนโยบายภาษีนำเข้า จนเกิดแรงกระเพื่อมในตลาดหุ้นโลกและสินทรัพย์โภคภัณฑ์

ทั้งนี้ การประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมีนาคม และบันทึกการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่จะเผยแพร่ในวันที่ 11 (เวลาท้องถิ่น) ถูกจับตาอย่างใกล้ชิด โดยตลาดคาดว่า CPI จะออกมาทรงตัวต่อเนื่องจากเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีแนวโน้มส่งผลกระทบรุนแรงขึ้น เนื่องจากกังวลว่าภาษีของทรัมป์จะไปกระตุ้นเงินเฟ้อ ในขณะที่ ‘ภาษีตอบโต้’ ของจีนต่อสหรัฐจะเริ่มมีผลในวันที่ 10 และอาจกระทบห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกได้อย่างกว้างขวาง

นักวิเคราะห์และสถาบันการเงินชั้นนำเตือนว่า นโยบายการค้าของทรัมป์อาจชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก และส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงเผชิญแรงกดดัน "ความคิดเห็น" คริปโตเคอร์เรนซียังคงถูกจัดอยู่ในกลุ่มสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ทำให้ยากที่จะกลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดผันผวน

ราคาคริปโตตกหนักในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บิตคอยน์(BTC) ดิ่งลงกว่า 8% มาอยู่แถวระดับ 74,000 ดอลลาร์ ขณะที่อีเธอเรียม(ETH) ร่วงลงใกล้ 18% แตะระดับ 1,450 ดอลลาร์ ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 โดยแรงเทขายยังลามไปยังเหรียญใหญ่หลายตัวเช่น ริปเปิล(XRP), โซลานา(SOL), ด็อจคอยน์(DOGE), คาร์ดาโน(ADA), เชนลิงค์(LINK), และสเตลลา ส่งผลให้มูลค่าตลาดคริปโตโดยรวมลดลงไปราว 2,500 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 365 ล้านล้านวอน เหลือเพียง 2.5 ล้านล้านดอลลาร์

สัปดาห์นี้ยังมีการประกาศตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่อาจกระตุ้นความผันผวนในตลาดมากขึ้น ขณะเดียวกัน ธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอย่าง เจพีมอร์แกนเชส, เวลส์ฟาร์โก, มอร์แกนสแตนลีย์ และแบล็คร็อก เตรียมรายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงคริปโตในวงกว้าง

‘ความไม่แน่นอน’ จากสงครามภาษีผสมกับความเปราะบางของปัจจัยมหภาค กำลังสร้างแรงกดดันระดับสูงให้กับคริปโตเคอร์เรนซี นักวิเคราะห์มองว่าจนกว่าจะเห็น ‘สัญญาณบวก’ จากเศรษฐกิจหรือความมั่นคงในตลาดทุนโลก ตลาดคริปโตคงต้องอยู่ในภาวะระมัดระวังและปรับตัวกับแรงเทขายในระยะสั้นต่อไปอีกระยะหนึ่ง.