ท่ามกลางความผันผวนของนโยบายการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาดการเงินสหรัฐโดยรวม ราคาบิตคอยน์(BTC) เองก็ทรุดตัวลงต่ำกว่าระดับแนวรับในปี 2021 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยล่าสุดมีการเกิด ‘เดธ ครอส’ ซึ่งเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันร่วงลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันในกราฟรายวัน ถือเป็นสัญญาณทางเทคนิคของแนวโน้มขาลงที่ชัดเจนมากขึ้น
ราคาบิตคอยน์ร่วงลงต่ำกว่า 75,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.09 ล้านบาท) พร้อมทดสอบระดับแนวรับเก่าที่ 69,000 ดอลลาร์ หรือราว 1.08 ล้านบาท ซึ่งเคยเป็นจุดสูงสุดในปี 2021 การร่วงลงครั้งนี้มีจุดเริ่มจากแรงขายในตลาดหุ้นที่ลุกลามมายังตลาดคริปโต สร้างความประหลาดใจให้กับผู้เข้าร่วมตลาดอย่างมาก นักวิเคราะห์เตือนว่านี่อาจเป็น ‘โอกาสสุดท้าย’ สำหรับบิตคอยน์ในการรักษาแนวโน้มขาขึ้นในระดับมหภาค
แม้สัปดาห์นี้ตลาดจะเตรียมรับการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) แต่สายตาส่วนใหญ่กลับจับจ้องไปที่ประกาศ ‘ภาษีนำเข้าเพิ่มเติม’ ที่รัฐบาลทรัมป์เตรียมจะประกาศอย่างเป็นทางการ โดยฮาเวิร์ด รูตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์ สหรัฐฯ ระบุผ่านการให้สัมภาษณ์กับ CBS ว่า “จะเดินหน้าตามแผน” ซึ่งทำให้บรรยากาศตลาดเต็มไปด้วยความวิตก ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จึงถูกคาดว่าจะต้องพิจารณาลดดอกเบี้ยฉุกเฉินเร็วขึ้น
อ้างอิงจากข้อมูลของ CME FedWatch ผู้เข้าร่วมตลาดกำลังคาดการณ์กว่า 25% ว่าเฟดอาจลดอัตราดอกเบี้ย 0.25 จุดในการประชุม FOMC ช่วงเดือนพฤษภาคม นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่าหากภาษีนำเข้าชุดใหม่สร้างแรงกดดันราคาสินค้า เฟดก็จำเป็นต้องเร่งออกมาตรการรองรับในทันที โดย แอนโทนี พอมพลิอาโน ระบุว่า “อัตราเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวอย่างชัดเจน และเฟดจะต้องเริ่มตอบสนองในไม่ช้า”
นักวิเคราะห์บางรายเปรียบเทียบสถานการณ์การร่วงในรอบนี้กับ ‘แบล็กมันเดย์’ ปี 1987 หรือเหตุการณ์แพนิกในช่วงเริ่มต้นการระบาดโควิด-19 ในปี 2020 โดยตลาดหุ้นเอเชียอย่างญี่ปุ่นและจีนถึงขั้นต้องใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์เพื่อหยุดยั้งการดิ่งหนัก ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เต็มไปด้วยความกลัวตั้งแต่ก่อนเปิดการซื้อขาย มิเคล ฟาน เดอ โปเป วิเคราะห์ว่าบิตคอยน์อาจร่วงต่อถึงระดับ 70,000 ดอลลาร์ (ราว 1.02 ล้านบาท)
ขณะเดียวกัน ความสูญเสียของ ‘กลุ่มนักลงทุนระยะสั้น’ ก็ทวีความรุนแรง ทำให้ความวิตกในตลาดขยายตัวต่อเนื่อง บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชนอย่างคริปโตควอนท์(CryptoQuant) เปิดเผยว่าค่า SOPR – ดัชนีที่วัดกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้นจริงของผู้ถือระยะสั้น – ลดลงต่ำกว่าระดับ 1.0 ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนกลุ่มนี้จำนวนหนึ่งกำลังยอมขาดทุนขายทิ้ง เป็นสัญญาณของการ ‘ยอมจำนน’ ในตลาด
ดัชนี ‘ความกลัวและความโลภ’ ที่ใช้อ้างอิงในตลาดการเงินดั้งเดิมดิ่งลงไปแตะเพียง 4 จาก 100 ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ – ต่ำกว่าแม้กระทั่งช่วงโควิดหรือเหตุการณ์เทอร์รา-FTX – ขณะที่ตลาดคริปโตยังคงรักษาระดับไว้ที่ 23 จาก 100 แสดงให้เห็นถึงความทนทานของนักลงทุนคริปโตในสถานการณ์นี้
อย่างไรก็ตาม ยังมีบางมุมมองมองว่านี่อาจเป็น ‘โอกาสทอง’ สำหรับการซื้อในราคาที่ต่ำ ชาร์ลส์ เอดเวิร์ดส์ ผู้ก่อตั้งกองทุนลงทุนคริปโต ‘คาเฟรียล อินเวสต์เมนต์ส์’ ระบุว่า “แม้ความรู้สึกในตลาดจะถึงจุดต่ำสุด แต่เมื่อเกิดการฟื้นตัว บิตคอยน์อาจเป็นสินทรัพย์ที่ฟื้นแรงที่สุด และช่วงนี้ก็เคยเป็น ‘จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ’ มาแล้วในประวัติศาสตร์หลายครั้ง” ความคิดเห็นนี้ย้ำความเป็นไปได้ว่า ขาลงครั้งนี้อาจเปิดช่องให้กับรอบขาขึ้นใหม่ได้อีกครั้งในอนาคต
ความคิดเห็น 0