นโยบายการค้าสุดแข็งกร้าวของประธานาธิบดีทรัมป์กำลังเขย่าตลาดคริปโตครั้งใหญ่ในช่วงต้นเดือนเมษายน บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) รวมถึงอัลต์คอยน์หลักต่างพากันร่วงหนัก สะท้อนถึงความหวาดวิตกที่แผ่ขยายจากตลาดการเงินทั่วโลกสู่โลกสินทรัพย์ดิจิทัล ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การขึ้นภาษีที่นำโดยทรัมป์กำลังก่อให้เกิด ‘สงครามเศรษฐกิจเชิงนิวเคลียร์’ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ข้อมูลเมื่อวันที่ 5 เมษายน ระบุว่า มูลค่าตลาดรวมของคริปโตลดลงเกือบ 7% ภายในเวลาเพียงสองวัน จากระดับ 2.65 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3,869 ล้านล้านวอน บิตคอยน์ร่วง 9.5% ขณะที่อีเธอเรียมดิ่งลงถึง 17.3% ด้านอัลต์คอยน์ยอดนิยมอย่างริปเปิล(XRP), โซลานา(SOL) และดอจคอยน์(DOGE) ก็ปรับตัวลงกว่า 15–20% ส่งผลให้มูลค่าการชำระบัญชีของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(ฟิวเจอร์ส)ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง สูงถึง 840 ล้านดอลลาร์ โดยกว่า 70% เป็นความเสียหายที่เกิดจากนักลงทุนในบิตคอยน์และอีเธอเรียม
ศูนย์กลางของคลื่นความปั่นป่วนนี้ คือ นโยบายขึ้นภาษีศุลกากรแบบรุนแรงของรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นในประเทศกำลังพัฒนาเข้าสู่ภาวะวิกฤติ และขยายตัวเป็นความกังวลในสินทรัพย์ความเสี่ยงทั่วโลก ตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ยุโรป จีน และญี่ปุ่น ต่างปรับตัวลดลงระหว่าง 6–13% ภายในสัปดาห์เดียว และความเคลื่อนไหวนี้ได้ฉุดคริปโตลงตามไปด้วย
นักวิเคราะห์เตือนว่าความตระหนกของนักลงทุนครั้งนี้อาจไม่ใช่แค่ ‘การพักฐานทางเทคนิค’ แต่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘การปรับตัวเชิงโครงสร้าง’ จิตวิทยาแบบ “ขายเมื่อได้ยินข่าว” กำลังแพร่กระจาย แม้จะมีข่าวบวกก็อาจไม่เพียงพอให้ราคาฟื้นคืนได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญ ความเสียหายส่วนใหญ่มาจากฝั่งนักลงทุนที่ถือ ‘สถานะซื้อ(Long)’ ตอกย้ำว่าไม่ใช่การกลับทิศของตลาด แต่เป็นผลสะท้อนจากความคาดหวังที่สูงเกินจริง
ในภาคธุรกิจ หลายฝ่ายมองว่าหากรัฐบาลของทรัมป์ยังคงแนวนโยบายเดิม ความผันผวนในตลาดสินทรัพย์ทั่วโลกจะยิ่งรุนแรงขึ้น บิล แอ็คแมน ซีอีโอของ Pershing Square Capital Management ถึงกับเรียกร้องให้ทรัมป์ ‘ยับยั้งชั่งใจ’ โดยกล่าวว่า “สงครามเศรษฐกิจเชิงนิวเคลียร์คือการต่อสู้ที่ไม่มีผู้ชนะ” ความเป็นไปของตลาดคริปโตในระยะใกล้จะยังคงผูกพันกับตัวแปรเศรษฐกิจมหภาค และเส้นทางสู่การฟื้นตัวอย่างมั่นคงจะต้องอาศัยทั้งเวลาและความชัดเจนทางการเมืองอย่างมาก
ความคิดเห็น: ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะนโยบายของสหรัฐฯ สามารถส่งผลสะเทือนต่อความมั่นคงของตลาดคริปโตได้อย่างรุนแรง นักลงทุนจึงควรเพิ่มความระมัดระวังในการประเมินความเสี่ยงระยะกลางถึงยาว
ความคิดเห็น 0