มหาวิทยาลัยออสตินเดินหน้าลงทุนในบิตคอยน์(BTC) อย่างจริงจัง โดยมีแผนจัดตั้งกองทุนมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 180 ล้านบาท) ตามกลยุทธ์การถือครองบิตคอยน์เป็นเวลา 5 ปี
เมื่อวันที่ 9 ตามรายงานของไฟแนนเชียลไทมส์(FT) มหาวิทยาลัยออสตินมีแผนนำเงินบางส่วนจากกองทุนบริจาคเพื่อการลงทุน (Endowment Fund) ที่มีมูลค่ารวม 200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7,250 ล้านบาท) มาลงทุนในบิตคอยน์ โดยใช้กลยุทธ์ถือครองระยะยาวอย่างน้อย 5 ปีเพื่อเล็งเห็นถึงโอกาสในการเติบโต
ชุน ไล(Chun Lai) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน (CIO) ของกองทุนมหาวิทยาลัยออสตินกล่าวว่า "เราไม่ต้องการให้ตัวเองล้าหลังหากศักยภาพของบิตคอยน์ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่"
การเคลื่อนไหวของมหาวิทยาลัยออสตินเกิดขึ้นท่ามกลางแนวโน้มที่สถาบันการศึกษาของสหรัฐฯ เพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ก่อนหน้านี้ ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว มหาวิทยาลัยเอมอรีได้เปิดเผยว่ากองทุนของตนถือครองบิตคอยน์ผ่านกองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอตของเกรย์สเกล (Grayscale) ในมูลค่าประมาณ 15 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 540 ล้านบาท) นับเป็นกรณีแรกที่กองทุนของมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ลงทุนใน ETF บิตคอยน์โดยเปิดเผย
แนวโน้มการถือครอง ETF ของนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลเชิงบวกต่อราคาบิตคอยน์ เนื่องจากการไหลเข้าสู่ตลาดของกลุ่มทุนขนาดใหญ่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง ผู้เชี่ยวชาญในวงการเชื่อว่าการมีส่วนร่วมของนักลงทุนสถาบันอาจมีบทบาทสำคัญในการผลักดันราคาบิตคอยน์ไปสู่จุดสูงสุดใหม่
นอกจากกองทุนมหาวิทยาลัยแล้ว ตลาดบำนาญก็เริ่มหันมาสนใจการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น รายงานจากบิตเกต(Bitget) รีเสิร์ชเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ระบุว่า ประมาณ 20% ของกลุ่ม Gen Z และ Gen Alpha สนใจรับเงินเกษียณในรูปแบบคริปโต ขณะที่ 78% มองหาทางเลือกการลงทุนที่ต่างจากระบบบำนาญแบบดั้งเดิม
เกรซี เฉิน(Gracy Chen) ซีอีโอของบิตเกตกล่าวว่า “คนรุ่นใหม่ไม่ได้ต้องการพึ่งระบบบำนาญแบบเก่าอีกต่อไป พวกเขาต้องการทางเลือกที่ให้อำนาจควบคุม ยืดหยุ่น และโปร่งใสยิ่งขึ้น”
การตัดสินใจลงทุนในบิตคอยน์ของมหาวิทยาลัยออสตินอาจกระตุ้นให้มหาวิทยาลัยและนักลงทุนสถาบันรายอื่นเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นในอนาคต
ความคิดเห็น 0