ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเก็บ ‘ภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน’ ในอัตราสูงถึง 104% ส่งผลให้รัฐบาลจีนเร่งตอบโต้ด้วยการ ‘ลดค่าเงินหยวน’ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจกลายเป็นแรงสนับสนุนให้ราคาบิตคอยน์(BTC)กลับเป็นขาขึ้นอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 8 ค่าเงิน *หยวน* เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2023 ซึ่งถูกมองว่าเป็นสัญญาณจากธนาคารกลางจีนว่ากำลัง ‘ยอมให้ค่าเงินผันผวนมากขึ้น’ โดย หวังจวี่ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนจาก BNP พาริบา ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ระบุว่า จีนมีแนวโน้ม ‘ลดค่าเงินหยวนเพิ่มเติมในอนาคต’ และแรงกดดันต่ออัตราแลกเปลี่ยนจะดำเนินต่อไปอีกระยะ
หาก *หยวน* อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสสูงที่เงินทุนของชาวจีนจะไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย และหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความสนใจ คือ *บิตคอยน์* อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX แสดงความเห็นว่า เหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นในปี 2013 และ 2015 และอาจเกิดขึ้นอีกในปี 2025
ด้าน เบน โจว ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Bybit กล่าวว่า จีนอาจ ‘อนุโลมให้เงินหยวนอ่อนค่า’ เพื่อบรรเทาความตึงเครียดด้านการค้ากับสหรัฐ ส่งผลให้มี ‘เงินทุนออกจากจีนจำนวนมาก’ และอาจไหลเข้า *บิตคอยน์* ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อ BTC ปัจจุบัน Bybit คือหนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตฯ อันดับ 2 ของโลก โดยผู้ใช้งานจากจีนสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องใช้ VPN แต่ยังไม่สามารถซื้อขายด้วยเงินหยวนโดยตรง
ในอีกด้าน มุมมองจากนักวิเคราะห์ชี้ว่า การปะทะกันของสองเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ ทำให้ ‘ความผันผวนของตลาดอัตราแลกเปลี่ยน’ ทวีความรุนแรงขึ้น เบรนต์ ดอนเนลลี จาก Spectra FX Solutions กล่าวว่าหากสงครามการค้าบานปลาย ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอาจเต็มไปด้วย ‘ความคลั่ง’ ล่าสุดดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ร่วงจากเกือบ 110 ลงมาต่ำกว่า 103 ซึ่งเป็นการลดลงที่รุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี ขณะที่ ฌูเลียง บิเตล จาก Global Macro Investor อธิบายว่าการดิ่งลงระหว่างปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นมีนาคมถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
โดยทั่วไป เมื่อ DXY อ่อนค่าลง ราคาของ *บิตคอยน์* มักมีแนวโน้ม ‘ดีดตัวขึ้น’ เนื่องจากนักลงทุนมอง *บิตคอยน์* เป็นเครื่องมือเฮดจ์ความเสี่ยงต่อเงินดอลลาร์
เมื่อทั้ง ‘หยวนถูกลดค่า’ และ ‘ดอลลาร์อ่อนค่า’ ดำเนินควบคู่กัน ความเป็นไปได้ที่นักลงทุนทั่วโลกจะหันมาจับตา *บิตคอยน์* ในฐานะการป้องกันความเสี่ยงและเก็บรักษามูลค่า มีแนวโน้มสูงขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์จากสงครามการค้ายังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย
ความคิดเห็น 0