ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงสู่ระดับ 77,000 ดอลลาร์ หลัง *ทรัมป์* ประกาศนโยบายภาษีนำเข้าใหม่ของสหรัฐฯ สร้างความไม่แน่นอนในตลาดการเงินทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่ววงการ ทั้งยังลากตลาดพันธบัตรสหรัฐเข้าสู่ภาวะแปรปรวน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี พุ่งขึ้นแตะ 4.98% ส่งสัญญาณ ‘เงินเฟ้อ’ และความกังวลต่อ ‘หนี้สาธารณะ’ กลับมาเขย่าทั้งตลาดสินทรัพย์แบบดั้งเดิมและตลาดคริปโต
ตลาดอนุพันธ์ก็เริ่มตึงเครียด หากราคาบิตคอยน์ร่วงทะลุแนวรับที่ 74,000 ดอลลาร์ มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการ *ชอร์ตสกปรก* ด้วยการถูกบังคับขาย (Forced liquidation) ของสถานะ *ลอง* มูลค่ารวมกว่า 476 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6,953 ล้านบาท ขณะเดียวกันหากราคาทะลุแนวต้านที่ 78,000 ดอลลาร์สำเร็จ *ชอร์ต* อาจโดนซัดกลับด้วยความเสียหายสูงถึง 982 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.43 หมื่นล้านบาท *ความคิดเห็น*: นี่เป็นช่วงเวลาที่นักเทรดต้องระวัง ไม่ใช่แค่กราฟสวย แต่แรงกดดันจากด้านนโยบายก็เล่นงานได้ไม่แพ้กัน
นักวิเคราะห์ชี้ต้นตอจากนโยบายภาษีใหม่ของรัฐบาลทรัมป์ ที่ถูกมองว่าอาจเป็นภัยต่อตลาดในเชิง ‘ระบบ’ หรือ Systemic Risk โดย จิม เบียงโก(Jim Bianco) จากบริษัทวิจัย Bianco Research กล่าวว่า ภาวะผิดปกติที่เกิดขึ้นในตลาดพันธบัตรช่วงนี้ น่าจะมาจากการ *บังคับขายครั้งใหญ่* มากกว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามปกติ พร้อมเปรียบเทียบกับช่วงปี 1982 ซึ่งเป็นยุคของ ‘ดอกเบี้ยทะยาน’ และชี้ว่าบางสถาบันอาจกำลังเผชิญกับภาวะถูกล้างพอร์ต
ข้อมูลจาก Coinglass แสดงให้เห็นว่าบิตคอยน์กำลังย่ำอยู่ที่ระดับ *แนวรับสำคัญทางเทคนิค* หากเกิดการทะลุระดับนี้ลงไป อาจทำให้เกิดการบังคับขายแบบลูกโซ่ ซึ่งไม่เพียงแต่จะกระทบบิตคอยน์เท่านั้น แต่อาจลาก ‘สภาพคล่องทั่วตลาดคริปโต’ ให้แห้งตามไปด้วย
อย่างไรก็ดี ยังมีนักวิเคราะห์บางรายมองสถานการณ์ในแง่บวก ไลอัน ลี(Ryan Lee) หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Bitget Research เผยว่า หากความผันผวนครั้งนี้จบลงภายในระยะสั้น และนโยบายที่สนับสนุนคริปโตยังคงต่อเนื่อง บิตคอยน์มีสิทธิแตะระดับ 95,000 - 100,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี พร้อมชี้ว่ายอด *มูลค่าตลาดรวม* (Market Cap) อาจกลับทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4,380 ล้านล้านบาทได้อีกครั้ง
ขณะนี้ บิตคอยน์ถูกซื้อขายอยู่ที่ระดับ 77,670 ดอลลาร์ ลดลงราว 2% เมื่อเทียบกับช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1.54 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 2,248 ล้านล้านบาท นักเทรดทั้งรายเล็กรายใหญ่ต่างกำลังจับตาผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจของ *ทรัมป์* อย่างใกล้ชิด เพราะอาจเป็นตัวแปรใหญ่ของเทรนด์ตลาดในระยะถัดไป
ความคิดเห็น 0