Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) ร่วงกว่า 11% เหลือต่ำกว่า 75,000 ดอลลาร์ เหตุสงครามการค้า-สถาบันเทขายหนัก

Wed, 09 Apr 2025, 13:19 pm UTC

บิตคอยน์(BTC) ร่วงกว่า 11% เหลือต่ำกว่า 75,000 ดอลลาร์ เหตุสงครามการค้า-สถาบันเทขายหนัก / Tokenpost

บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 75,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.95 ล้านบาท) อีกครั้งในสัปดาห์นี้ โดยปรับตัวลงมากกว่า 11% ภายในช่วงเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ ปัจจัยเบื้องหลังการร่วงลงครั้งนี้เกี่ยวข้องกับทั้งความวิตกในเศรษฐกิจโลกและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะเมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ตัดสินใจเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 104% ซึ่งส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง และกระตุ้นให้มีการขายสินทรัพย์เสี่ยงในวงกว้าง

ความตึงเครียดทางการเมืองเพิ่มสูงขึ้นในลักษณะที่คล้ายกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอีกครั้ง หลังจากที่รัฐบาลจีนเริ่มขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 73 ล้านล้านวอน) ขณะเดียวกัน ฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้เริ่มดำเนินมาตรการตอบโต้โดยเก็บภาษีสินค้าจากจีนในอัตราสูงถึง 104% มาตรการนี้เมื่อมีผลบังคับใช้จริง ตลาดก็แสดงปฏิกิริยาทันที โดยสินทรัพย์คริปโต รวมถึง *บิตคอยน์* ตกลงอย่างรวดเร็ว

ข้อมูลเพิ่มเติมชี้ให้เห็นว่าสถาบันการเงินรายใหญ่เริ่มถอนตัวออกจากตลาด *บิตคอยน์* เช่นกัน ตัวอย่างเช่น iShares บิตคอยน์ ทรัสต์ ของบริษัทแบล็คร็อก(IBIT) ได้เทขายบิตคอยน์ออกมาถึง 3,296 BTC ภายในวันเดียว ขณะที่ ETF บิตคอยน์ในสหรัฐฯ มีการไหลออกสุทธิรวมกว่า 326 ล้านดอลลาร์ (ราว 4,760 ล้านบาท) ในวันเดียว ซึ่งส่งแรงกดดันต่อ *สภาพคล่องของบิตคอยน์* อย่างมีนัยสำคัญ

แม้ราคาบิตคอยน์จะพยายามฟื้นตัวขึ้นไปแตะระดับ 80,400 ดอลลาร์ ในช่วงสั้นๆ แต่การพุ่งขึ้นนี้กลับถูกมองว่าเป็น *กับดักกระทิง (bull trap)* โดยราคากลับปรับตัวลงทันที ทำให้เกิดการเทขายเพื่อชำระบัญชีกว่า 390 ล้านดอลลาร์ (ราว 5,690 ล้านบาท) ความผันผวนดังกล่าวส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนสั่นคลอน ทั้งนี้แม้เหรียญทางเลือก (อัลต์คอยน์) จะมีการรีบาวด์ในระยะสั้น แต่โครงสร้างอุปสงค์-อุปทานยังคงบ่งชี้ถึงภาวะตลาดขาลง

ผู้เชี่ยวชาญบางรายมองว่าสถานการณ์ครั้งนี้อาจนำไปสู่ *การสั่นสะเทือนเชิงโครงสร้างในตลาดการเงินโดยรวม* ไม่ใช่เพียงแค่แรงกระแทกในระยะสั้น อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ผู้ร่วมก่อตั้งบิทเม็กซ์ ได้ให้ความเห็นว่า “การที่หุ้น พันธบัตร และคริปโตเคอร์เรนซีเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันแบบนี้ แสดงถึงความบิดเบี้ยวรุนแรงของเศรษฐกิจมหภาค” เขายังระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจำเป็นต้องปรับนโยบายเร็วขึ้น อย่างไรก็ดี แม้ความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะค่อยๆ ชัดเจนขึ้น แต่หากสงครามการค้ายืดเยื้อ ก็อาจจำกัดความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบายได้

ทั้งนี้ นักลงทุนบางส่วนยังคงเชื่อว่าหาก *ความขัดแย้งทางการค้าเริ่มคลี่คลาย ประกอบกับการลดดอกเบี้ย* กลับมาเป็นประเด็นหลัก บิตคอยน์ก็มีโอกาสเข้าสู่ขาขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ระดับ 70,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.8 ล้านบาท) อาจเป็นแนวรับระยะสั้นที่สำคัญ และนักลงทุนจำเป็นต้องเฝ้าระวังต่อ *ความผันผวนรุนแรง* ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1