Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) โชว์ความแกร่งท่ามกลางสงครามการค้า-เฟดอาจเป็นปัจจัยหนุนตลาดคริปโต

Wed, 09 Apr 2025, 10:34 am UTC

บิตคอยน์(BTC) โชว์ความแกร่งท่ามกลางสงครามการค้า-เฟดอาจเป็นปัจจัยหนุนตลาดคริปโต / Tokenpost

ในปี 2025 ตลาดการค้าโลกกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ส่งผลให้ตลาดคริปโตอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* ต้องพิสูจน์ความแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยหลังจากนโยบายกำแพงภาษีของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ได้รับการประกาศในช่วงต้นปี นักลงทุนทั่วโลกเริ่มเผชิญความผันผวนมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนนั้น บิตคอยน์กลับแสดงศักยภาพด้าน *ความยืดหยุ่น* จนกลายเป็นที่จับตามอง

ตามรายงานของ Binance Research เมื่อเดือนมกราคม ความตึงเครียดจากสงครามการค้าระหว่างประเทศเริ่มส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างบิตคอยน์และสินทรัพย์การเงินแบบดั้งเดิม โดย ณ วันที่ 30 กุมภาพันธ์ ค่า *สหสัมพันธ์ระหว่างบิตคอยน์กับตลาดหุ้น* ลดลงเหลือ -0.32 แต่จากความตื่นตระหนกในตลาด การเคลื่อนไหวดังกล่าวกลับดีดกลับขึ้นที่ 0.47 สะท้อนถึง *จิตวิทยานักลงทุน* ที่เริ่มตอบสนองต่อแรงกดดันระยะสั้นอย่างชัดเจน

ขณะเดียวกัน บิทคอยน์ในปีนี้กลับแสดงความสัมพันธ์เชิงลบกับทองคำ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็น *สินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ* รายงานชี้ว่า พฤติกรรมราคาในช่วงนี้ทำให้บิตคอยน์เข้าข่ายเป็น *สินทรัพย์เสี่ยง* มากกว่าการเป็น "หลุมหลบภัย" ของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม Binance ยังเชื่อว่า บิตคอยน์มีศักยภาพในการกลายเป็น *กลุ่มสินทรัพย์ที่เป็นอิสระ* ในระยะกลางถึงยาว โดยข้อมูลชี้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างบิตคอยน์กับหุ้นในระยะกลางเฉลี่ยอยู่ที่ 0.32 ส่วนกับทองคำอยู่ที่ 0.12

สิ่งที่น่าสนใจคือ หลังจากรัฐบาลทรัมป์ประกาศนโยบายทางการค้า นักลงทุนหันไปขายสินทรัพย์ที่มั่นคงแบบดั้งเดิม ในขณะที่ บิตคอยน์กลับ ‘ทรงตัว’ หรือมีแนวโน้มปรับขึ้นในหลายวัน ซึ่งบ่งชี้ว่า *นักลงทุนระยะยาว* ยังมั่นใจและไม่รีบดึงสินทรัพย์ออกจากระบบ แสดงให้เห็นถึง *ความนิ่งของตลาดคริปโต* ท่ามกลางความผันผวนทั่วโลก

ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่า หากบิตคอยน์ต้องการกลับมาเป็น *สินทรัพย์ปลอดภัยแบบไม่ดั้งเดิม* อย่างจริงจัง จะต้องลดความสัมพันธ์กับสินทรัพย์อื่นอย่างชัดเจนอีกครั้ง คล้ายเหตุการณ์วิกฤตธนาคารในปี 2023 ที่บิตคอยน์ถูกใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเหตุการณ์เฉพาะหน้า

นอกจากนี้ อีกปัจจัยที่ต้องจับตามองคือ *ทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)* โดยรายงานระบุว่า หากเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะชะลอตัวอย่างยาวนานภายใต้เงินเฟ้อที่สูงขึ้น เฟดอาจหันไปใช้นโยบายผ่อนคลาย ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อ *ตลาดคริปโต* แต่หากเฟดยังคงเดินหน้าใช้นโยบายเข้มงวดต่อเนื่อง ก็อาจส่งผลลบต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงคริปโตด้วย

Binance Research สรุปว่า “หากสภาวะเศรษฐกิจโลกกลับเข้าสู่ความสงบ พร้อมกับการส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยหรือการออกนโยบายที่เอื้อต่อคริปโต บิตคอยน์อาจฟื้นกลับมาและสร้าง *แรงขับเคลื่อนด้านราคาที่แข็งแกร่ง* ได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น *ความผันผวนระดับสูง* จะยังคงเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องเผชิญ”

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1