นิวยอร์กเตรียมพิจารณาใช้ ‘บล็อกเชน’ ในระบบการเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 8 เมษายน ไคลด์ แวนเนล(Clyde Vanel) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐนิวยอร์ก ได้เสนอร่างกฎหมาย A07716 ที่กำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐพิจารณาความเป็นไปได้ในการนำเทคโนโลยี *บล็อกเชน* มาใช้เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง โดยขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการว่าด้วยกฎหมายการเลือกตั้งของสภาฯ
เนื้อหาโดยสรุปของร่างกฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายเพื่อศึกษาวิธีการใช้บล็อกเชนในการปกป้องข้อมูลผู้มีสิทธิเลือกตั้งและผลการเลือกตั้ง โดยหากร่างกฎหมายผ่านความเห็นชอบ คณะกรรมการการเลือกตั้งของนิวยอร์กจะต้องจัดทำรายงานวิจัยภายในระยะเวลา 1 ปี โดยรายงานที่จะจัดทำจะต้องรวมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ทั้ง *บล็อกเชน*, ความมั่นคงทางไซเบอร์, การป้องกันการโกงในการเลือกตั้ง และการจัดเก็บบันทึกผลเลือกตั้ง
เทคโนโลยี *บล็อกเชน* มักถูกกล่าวถึงว่าเป็นเครื่องมือที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นในการเลือกตั้งได้เพราะมีลักษณะโปร่งใสและไม่สามารถแก้ไขย้อนหลังได้ เช่น เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา การเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรครีพับลิกันในเทศมณฑลวิลเลียมสัน รัฐเทนเนสซี มีการใช้ *บิตคอยน์(BTC)* บล็อกเชนในการบันทึกผลการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนเมื่อปีก่อน ไบรอัน โรส ผู้สมัครอิสระ ก็เคยเสนอแนวทางให้ใช้บล็อกเชนเพื่อยืนยันตัวบุคคลผู้ลงคะแนนและบันทึกผลเลือกตั้งอย่างเปลี่ยนแปลงไม่ได้ โดยย้ำว่า *บล็อกเชนจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับระบบเลือกตั้ง*
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางรายให้ข้อสังเกตว่า *แม้บล็อกเชนจะปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูล แต่ก็ไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ป้อนเข้าไปได้* ซึ่งตรงกับหลักการที่ว่า “ขยะเข้า ขยะออก” หมายความว่าหากข้อมูลตั้งต้นผิด แม้เทคโนโลยีจะดีเพียงใด ก็อาจได้ผลลัพธ์ที่ผิดอยู่ดี
แวนเนลถือเป็นนักการเมืองที่สนับสนุน *สินทรัพย์ดิจิทัล* อย่างชัดเจน โดยก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคม เขาเคยเสนอร่างกฎหมายให้เอาผิดทางอาญากับผู้ก่อเหตุฉ้อโกงผ่าน *มีมคอยน์* หรือการเทเหรียญหนี (*rug pull*) รวมถึงในช่วงต้นปีนี้ เขายังเสนอให้รัฐนิวยอร์กจัดตั้งทีมเฉพาะกิจด้านคริปโตเคอร์เรนซีเพื่อติดตามนโยบายและแนวทางกำกับดูแล
ย้อนกลับไปปี 2019 แวนเนลยังเคยเรียกร้องให้ *อุตสาหกรรมบล็อกเชนเพิ่มการมีส่วนร่วมกับผู้กำหนดนโยบาย* และให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ภาครัฐอย่างทั่วถึง ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้จึงถูกมองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการเดินหน้าสู่การ *ออกกฎหมายด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของนิวยอร์ก* ที่จริงจังยิ่งขึ้นอีกขั้น
ความคิดเห็น 0