โทเค็นพาย(Pi) ยังคงเผชิญความท้าทายด้านราคา โดยล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ประมาณ *0.59 ดอลลาร์สหรัฐ* และไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ *0.60 ดอลลาร์สหรัฐ* ได้ ภายในระยะเวลาเพียง 14 วัน มูลค่าของพายลดลงมากกว่า *30%* และหากเทียบกับจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ยังปรับลดลงกว่า *80%* สถานการณ์นี้สะท้อนถึงแรงกดดันด้านราคาที่เกิดจากการปลดล็อกโทเค็นในปริมาณมาก
ตามข้อมูลจาก PiScan เผยว่า ในเดือนนี้มีแผนจะมีการปล่อยพายเข้าสู่ระบบมากถึง *119 ล้านโทเค็น* โดยเพียงแค่วันที่ 11 เมษายน ก็มีโทเค็นถูกปล่อยออกมาแล้วถึง *1.4 ล้านพาย* ขณะที่ส่วนที่เหลือจะถูกกระจายผ่านแพลตฟอร์มภายในสิ้นเดือน ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการถือครองโทเค็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เสียงวิพากษ์จากชุมชนพายเน็ตเวิร์กเริ่มรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะจาก *กลุ่มในตุรกี* ที่เพิ่งออกแถลงการณ์วิจารณ์การบริหารของทีมหลักอย่างเปิดเผย โดยระบุว่าทีมพัฒนาเน้นระบบการบริหารแบบสั่งการ ไม่รับฟังความคิดเห็นจากชุมชน และเบี่ยงเบนจากแนวคิด ‘การกระจายอำนาจ’ ที่เป็นหัวใจหลักของโปรเจกต์
ในถ้อยแถลงระบุว่า “สิ่งที่เรารออย่างจดจ่อ กลับกลายเป็นแค่ความผิดหวัง” โดยกล่าวถึงปัญหาการเลื่อนเปิดเมนเน็ต ความไม่โปร่งใส และการไม่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นถึงความไม่ชัดเจนทั้งในแง่สถานะการเงิน รายละเอียดความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ต่างๆ และการขาดความโปร่งใสของจำนวนแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApp) ที่ใช้งานจริงบนเครือข่าย
*ความคิดเห็น* จากนักวิเคราะห์บางรายมองว่า แนวโน้มราคาของพายไม่ได้รับผลกระทบเพียงจากการปลดล็อกโทเค็นเท่านั้น แต่ยังสะท้อนความกังวลต่อความก้าวหน้าในระยะยาว และความไม่มั่นใจว่าพายเน็ตเวิร์กจะสามารถสร้างระบบนิเวศ Web3 ที่แท้จริงได้ หรือเป็นเพียงกระแสตามโลกคริปโตในชั่วขณะ ความเชื่อมั่นต่อโครงการจึงกำลังอยู่ในจุดที่เปราะบางที่สุด
ความคิดเห็น 0